ไปเที่ยวอินโดนีเซีย แบคแพคดี หรือไปทัวร์ดี?

ฟันธงให้เลยดีกว่าค่ะ ว่าถ้าคุณอ่านบล็อกนี้จบปุ๊บ! ใครที่กำลังจะควักกระเป๋าจ่ายตังค์ก้อนจองทัวร์ไปเที่ยวจาร์การ์ต้า อินโดนีเซียด้วยราคา 30,000 กว่าบาท / 4 วัน คุณอาจเปลี่ยนใจได้นะคะ  เพราะค่าครองชีพและค่าเดินทางที่อินโดไม่ได้แพงอย่างที่คุณคิด แล้วก็ถ้าไม่ใช่บาหลีค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างถูกมากๆด้วย เอาตังค์ 20,000 บาทเก็บไว้ต่อทุนในทิศต่อไปดีกว่าค่ะ 555+

 

แบคแพคตะลุยจาการ์ตากันเถอะ…

ก่อนอื่นนะคะสิ่งที่เราจะต้องทำการบ้านก็คือ เตรียมตัวให้พร้อมด้วยศัพท์ที่เค้ากันใช้ประจำๆของคนที่นั่น เพราะอะไรนะหรือ? เพราะมันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งตอนเมื่อคุณซื้อของกิน เดินช๊อปปิ้ง ขึ้นรถแทกซี่ และอีกมากมายค่ะ คือคนที่นี่กฎหมาย ประเทศเค้าอ่อนนิดนึง มันก็จะมีเรื่องของการเอารัดเอาเปรียบกันบ้าง ขโมยกระโจนชุกชุมยิ่งเห็นเราเป็นชาวต่างชาติยิ่งน่ากลัวเลย เพราะฉะนั้นการรู้ภาษาท้องถิ่นเขาบ้างก็จะทำให้เขาไม่ค่อยจะกล้ามาเอารักเอาเปรียบเรานะคะ …

คำบางคำเป็นคำที่เรา ชาวต่างชาติจะไปบ้านเขาก็ควรพูดให้ติดปากนะคะ ยกตัวอย่างเช่น

1. เตรียมการพูดภาษาท้องถิ่น เช่น..

  • Hallo (ฮาโหล) = สวัสดี
  • Selamat pagi (เซอลามัต ปากี) = สวัสดี ตอนเช้า
  • สวัสดีตอนเที่ยง = เซอ-ลา-มัต -เซียง
  • สวัสดีตอนบ่าย = เซอ-ลา-มัต- โซ-เร
  • สวัสดีตอนเย็น = เซ-ลา-มัต -มา-ลัม
  • ส่วนสวัสดีกลางวัน เที่ยง บ่าย เย็น หัวค่ำ ดึก กู๊ดไนท์.อะไรไม่ต้องไปจำมันหรอกจ้ะเนียนๆไปนะคะ
  • ขอบคุณ = เทริมากาสิ ***
  • สบายดีไหม = อพาร์ คาบาร์
  • ยินดีที่ได้รู้จัก = เซลามัน เบอร์จัมพา
  • ใช่ = ยา, เบอร์ทูล
  • ไม่ใช่ = บูคัน
  • กรุณาช่วยฉันหน่อย = บิ-สา -ตอ-ลอง -ซา-ยา
  • ฉันขอใช้ห้องน้ำได้ไหม = บิ-สา-กา -ซา-ยา -เบอ-บา-ไก -กา-มาร -เกอ-จิล
  • คุณพูดอังกฤษได้ไหม = อะ-ปา-กา -อัน-ดา -บิ-สา-บิ-จา-รา -บา-ฮา-ซา -อิง-กริส

 

เมื่อเดินทางถึงสนามบินหน้าตาของสนามบินเขาก็จะเป็นแบบนี้ เป็นสนามบินที่ไม่ใหญ่มากมีทางเข้าทางออกช่องทางเดียว มรแค่ 2 ประตูแค่นั้น ไฟท์ที่เป้เดินทางมาเป็นไฟดึกค่ะ เดินออกมาตกใจอย่างแรวงนิ มีทั้งแท็กซี่และรถรับจ้างท้องถิ่นมายืนอยู่หน้าประตู ออๆกันนึกว่ามาชุมนุมประท้วง เขารับผู้โดยสารเข้าเมืองกันแบบฮาร์ทคอมั่กๆ ก่อนหน้านั้น ที่ปป.จะมาที่นี่ก็ว่าหาข้อมูลมาก่อนแล้วนะ หลายหลายข้อมูลเคยแนะนำว่าอย่านั่งรถแท็กซี่อื่นๆ นอกจากบลูเบิร์ด เราก็ต้องเชื่อผู้ใหญ่หมาไม่กัดไว้หน่อย หลายท่านอาบน้ำร้อนมาก่อนเราก็ต้องเชื่อพี่พี่เค้าอะเนอะ ^^ บลูเบริ์ดค่ะ.  การมาจาร์หาต้าก็ไม่ใช่เรื่องลำบากลำบนอะไร เรทราคาค่าครองชีพไม่ได้สูงเท่าไหร่ คือสามารถหาเวลาว่างๆมาสัมผัสบรรยากาศอีกนึงรูปแบบที่เรียกว่า. เอออ ดีนะไม่เหมือนกับที่เคยไปเที่ยวที่อื่นๆมาก่อน ทริปนี้มานี่แบบไม่ตั้งตัวเท่าไหร่ แต่ตั้งใจว่า 1 ทริปจะใช้สะตุ้งสตางค์ไม่ให้เกิน. 40,000 บ. ใน 5 วัน ในเมื่อตั้งใจแล้วก็ทำให้สำเร็จนะคร้า อิอิ  เริ่มต้นจากการหาตั๋วเครื่องบินและโรงแรมราคาที่โอเคร. ใช้เวลาไป 5 ชั่วโมงกว่ากว่า เทียบราคาสิครับงานนี้  สรุปก็ได้ เป็น  Traveloka เช่นเคย ก่อนอื่นต้องทำใจก่อนว่าโรงแรมในจาร์กาต้าไม่เหมือนบ้านเรา โรงแรม 5 ดาวของเขาคือ 4 ดาวบ้านเรา โรงแรม 4 ดาวบ้านเขาคือ 3 ดาวบ้านเรานะฮะ เพราะนั้น เอาแบบกะลังดี แนะนำ 4 ดาวเจ้าค่ะ.

จองโรงแรมที่ Menara Peninsula Hotel ไปเพราะ โรงแรมนี้ยังคงอยู่ภายในย่านชุมชนไม่อันตรายมาก สำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวในต่างแดนอย่างนู๋ว์ หน้าโรงแรมมีรถ Trans Jarkatar เป็นโรงแรมที่อยู่ครึ่งกลางระหว่างแหล่ง Shopping ที่กะว่าจะไป บวกกับ ดูรีวิวภาพมาจากเวปอื่นๆมา โอ้โหวววว  ดูดีสวยงามอลังการแต่อยากให้หาร 10 ไว้ในใจนิสนะคร้า มันไม่เป็นอย่างที่คุณคิดทั้งหมดค่ะ เบื่อมากบางเว็บที่รีวิวแล้วบอกว่าดีทุกอย่าง แต่จะบอกว่าอย่างน้อยโรงแรมนี้ก็ดีกว่าอีกหลายๆโรงแรม ที่เจอมา มี Wi-Fi ฟรี สปาและศูนย์สุขภาพ สระว่ายน้ำ ศูนย์ออกกำลังกาย ห้องปลอดบุหรี่

Link สำหรับจองโรงแรมในจาร์กาต้า: https://www.traveloka.com/th-th/hotel/indonesia/region/jakarta-102813

 

เดินทางถึงโรงแรมอย่างปลอดภัยทริปนี้ พักเพนนินซูล่า เห็นค่ามิเตอร์แล้วปวดหัวกับค่าเงินมากเพราะหลักหลายล้านค่ะ 555+ แล้วเค้าก็จะไม่พูดภาษาอื่นกับเรานะคะนอกจากภาษาอินโดเพราะฉะนั้นแนะนำเลยว่าถ้าไปอินโดนีเซีย อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพกไปด้วยคือ”เครื่องคิดเลข”ค่ะ

เค้าบอกราคามาเป็นภาษาอินโดก็เอาเครื่องคิดเลขไปกดเลย นะคะจะได้ไม่ต้องถูกโกงตังค์ค่าโดยสาร ยิ่งเราเป็นต่างชาติอิงน่ากลัวค่ะ เพราะแท็กซี่ที่นี่ไม่ว่าค่าโดยสารจะกี่แสนรูเปียห์ก็ตามเศษสตางค์ทอนเค้าไม่ค่อยทอนให้เรานะคะ เผลอๆอาจมีชาร์ตราคาเพิ่มไปอีก ไว้ใจไม่ได้เท่าไหร่ เพราะนั้นเน้นเนียนพูดภาษาเขาไปบ้าง มันจะได้งงๆ ไม่แน่ใจว่าเราคนอินโดหรือเปล่า เพราะหน้าตาเราก็ละม้ายคล้ายคนบ้านเขาเหลือเกิน พี่น้องชาวใต้ยิ่งคล้ายเลย เรียกว่าแทบแยกไม่ออกนะคะ 555+

 

2. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์…

ปลั๊กที่นี่จะไม่เหมือนบ้านเรา บ้านเราเรียก “ราวหรือปลั๊ก” แปลว่ารักหรือเปล่า แฮ่ ! เดี๋ยวๆ 55+ คือบ้านเขาเป็นเต้าเสียบแบบ 2 หัวกลม ใช้เหมือนต่างประเทศอย่างเกาหลี เราก็ต้องเตรียมไปเผื่อนะคะ รร. ที่ปป.ไปพักเขาไม่มีให้นะจ้ะ. อ่อ แต่มีขายที่สนามบิน นะคะการสำรวจมาแล้ว แต่ก็ราคาสูงนิดนึง ตัวอแดปเตอร์อันเดียวตกสี่ห้าร้อยบาทแน่ะ..


3. วัฒนธรรมประเพณีของคนอินโด… 

แน่นอนวัฒนธรรมและประเพณีของเค้าแตกต่างจากบ้านเราโดยสิ้นเชิงค่ะ ด้วยความที่ประเทศเขาเป็นประเทศมุสลิมซะเป็นส่วนใหญ่ ชนชั้นระหว่างหญิง ชายก็แตกต่างกัน อย่างเช่นนะคะ ที่โรงแรมที่ ปป.ไปพักบังเอิญว่ามีการจัดงานแต่งงานช่วงนั้นพอดี เห็นบรรยากาศยอมรับเลยว่าตกใจมากทีแรกนึกว่า”งานศพ”ค่ะ แต่ที่จริงของบ้านเขาน่ะเป็นงานแต่งงาน

เรื่องของประเพณีว่าแตกต่างกันแล้ว ลักษณะการจัดงานแต่งงานก็แตกต่างกันด้วยนะคะ ปกติที่บ้านเราจะเป็นช่อบูเก้พุ่มๆ ช่อดอกไม้สวยสวย ซุ้มไฟ ซุ้มดอกไม้ แบคดรอปที่เป็นรูปดอกไม้ หรืออะไรที่เป็นหัวใจ สีหวาน สิ่งที่แขกคนสำคัญหรือเพื่อนเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวนำมามอบให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็จะเป็นซองหรือของชำร่วยแสดงความยินดี. บางคู่ create หน่อยก็รูปภาพ แต่ที่นี่เค้าให้เป็นเหมือน”พวงหรีด”ในงานศพบ้านเราค่ะแตกต่างกันนิดหน่อยก็คือคำแสดงความยินดีกับการออกแบบพวงหรีดเป็นรูปหัวใจประดับด้วยดอกไม้สีสันสดใส…

แล้วก็งานแต่งงานของชาวอินโด ผู้ชายจะใส่แหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างขวาด้วย ไม่ใช่ใส่แต่ข้างซ้าย เพราะยังงั้นเลยเตรียมใจไว้แล้วถ้าเผลอปล่อยใจไปชอบหนุ่มอินโดคนไหน จะไม่ลืมดูนิ้วนางทั้งสองข้างของเขานะค๊า 55+



4. สิ่งที่ชาวอินโดแตกต่างจากชาวไทย …. 

อันนี้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่อยากเก็บตกมาฝากนะคะ มันมีจุดเล็กๆในน้อยที่น่าสังเกตไม่รู้ภักดีเคยไปแล้วมีโอกาสได้สังเกตบ้างหรือเปล่า ^^

  • อินโดนีเซียเป็นประเทศมุสลิมที่ค่อนข้างอันตรายด้วยวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของเค้าเพราะฉะนั้นเราจะสังเกตได้ว่าสาวชาวอินโดจะแต่งตัว เซฟตัวเองมากๆปกปิดมิดชิด เพราะฉะนั้นถ้าเราเป็นต่างชาติไปก็ควร แต่งกายมิดชิดเช่นกันเช่น ใส่ขายาวหรือกระโปรงยาว เสื้อไม่โป๊ ไม่เอวลอย ไม่คว้านคอลึก ไม่โชว์นม ไม่เปิดหลัง ไม่กัดปาก ไม่จิกตา เอิ่ม (ไม่ใช่ตูเรยย…555)
  • การชงชาเย็นที่แตกต่างจากบ้านเรา ที่นี่มีน้ำชาเย็นหวาน หรือน้ำผลไม้ทั่วไปจะใส่น้ำตาลลงไปก้นถ้วยแบบอย่างเยอะ ดังนั้นไม่ต้องตกใจ ถ้าอยากให้หวานมากน้อยแค่ไหน ให้คนเท่าที่ตัวเองต้องการค่าา
  • อาหารอินโดส่วนใหญ่คือของทอดและแป้ง สุภาพสตรีท่านไหนที่เกรงว่าจะอ้วนอวบอืด. มีอาหารเสริมบล็อกดักจับไขมันอะไรได้ใดก็เตรียมไปให้พร้อมนะคะเพราะทุกร้านมีของทอดและแป้งหมดเลยจ้ะ
  • ที่ห้างบางแห่ง ขายของ Brandname ขึ้นห้าง ระวัง มันอาจจะเป็นของปลอม ไม่อยากจะบอกว่าของเกรดเอบีซีอะไรนะคะเพราะจริงๆแล้วดูของแบรนด์เนมไม่เก่งค่ะแต่จากคำบอกเล่าของเพื่อนชาวอินโด เค้าเตือนมา เลยเอามาฝากเตือนกันต่อนะคะ…
  • คนอินโด ไม่ได้พูดภาษาอินโดทุกคนเสมอไป อินโดมีภาษาเป็นร้อยๆภาษา ร้อยๆเผ่า แนะนำว่าถ้าไม่ต้องการ”สามีอินโด” จริงๆก็ไม่ต้องไปเรียนภาษาเค้าให้มันมากมายหรอกจ้ะ คำทักทายที่แนะนำไว้ตั้งแต่ช่วงต้นสามารถเอามาใช้ได้บ้างแต่สำเนียงแต่ละทีก็จะไม่เหมือนกันอยู่ดี ^^
  • ภาษาอินโด ใช้ตัวอักษรโรมันแบบภาษาอังกฤษ แต่คนอินโดไม่ได้อ่านตัวอักษรแบบภาษาอังกฤษ ดังนั้นอาจงงได้ เช่น BEC(ชื่อห้าง) คนอินโดเรียก เบเอเจ ในขณะที่ภาษาอังกฤษคือ บีอีซี
  • คนจีนส่วนใหญ่ มักจะฐานะดีที่นี่ เราจะพบคนจีนส่วนใหญ่ได้ตามคอนโดหรูที่จะมีอยู่ด้านบนของห้างแต่ละที่นะคะ คนจีนที่นี่มีฐานะมากคอนโดที่นี่ก็ราคาสูงไม่ใช่บ้านเราส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ด้านบนของตัวห้างที่จอดรถของคอนโดมีเป็น 10 ชั้นเลยค่ะ วนรถทีปวดหัวมาก 555+
  • ร้านสะดวกซื้อที่เห็นไปบ่อยก็จะมี Indomaret และ Alfamart ซึ่งเราจะเห็นบ่อยบ่อยในทุกทุกที่ค่ะ
  • เครื่องปรุงบนโต๊ะอาหาร ที่อินโดไม่ได้มี น้ำปลาพริก น้ำปลา น้ำส้มสายชูเหมือนบ้านเรา แต่บ้านเค้าจะมีซอสพริก ซอสมะเขือเทศ ซีอิ๊วหวาน ที่เห็นไปบ่อยนะก็มีตามนี้แหล่ะค่ะ
  • ถ้ามีโอกาสช็อปปิ้งที่ตลาดมาริโอโบโร่ เมืองยอกยาการ์ต้าจะดีมาก เพราะที่นั่นเป็นแหล่งรวมของฝากของอินโดและชวา ต่อราคาได้แบบสะใจฝุดๆ
  • ดาราอินโดไม่ค่อยหล่อสวย แบบบ้านเรานะคะ คิดว่าธุรกิจความสวยความงาม ศัลยกรรม คอสเมติกน่าจะมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอินโดนะจริงๆ


มาเรื่องของการเดินทางกันบ้าง การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้การเรียนรู้ของฉันและเธอคือความเข้าใจเธอเข้าใจและฉันเข้าใจก็ทำให้เรา… พ๊อ!! พี่สุชาติก็มา ถถถ…

จาการ์ต้าเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่า รถติดที่สุดในโลก.” อันดับต้นๆของโลก ! ไปพิสูจน์กัน ติดจริงหรือป่าว อย่างนี้ต้องมีแผน วันนี้แพลนว่าจะไป Central Park กะ Plasa Indonesia ….



สรุป วันนี้ ปป.นักเที่ยวไปมา 2 ที่ดั่งตั้งใจแล้วกลับโรงแรมโดนค่าแท็กซี่ไปหลาย 100,000 Rpn รถติดเว่อวังอลังการมากจริงๆค่ะนั่งไปนั่งกับรอบละชั่วโมงกว่า!! เลยนะคะ

อ่อ ลืมบอก… เรทค่าเงิน. ค่าเงินเขาเล็ก คำนวนยากหน่อย คือ ประมาณ 10,000=26.3 บ.
แต่ค่าครองชีพพอๆกับอยู่เมืองไทย ไม่ต่างกันเยอะมาก

 

ไป Central Park ซึ่งไม่มีอะไรช๊อปเท่าไหร่มีแบนเนมบ้าง แต่ไม่เกร๋มากค่ะ ของราคาแพงกว่าบ้านเยอะพอสมควร ขาช๊อปทั้งหลายแนะนำว่าบ้านเราแหละจ่ะคุณขาของถูกและดีไม่มีปลอมปน อินโดนีเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ขึ้นชื่อว่าสินค้าที่วางขายในห้างชอบแบรนด์เนมเองก็ตามบางทีจะมีของก๊อปมิลเลอร์ปนอยุ่ด้วย ดูไม่เป็นซื้อไม่เป็นก็ให้ระวังนะคะ….

ก่อนจะมาเที่ยวที่นี่ เพราะ รู้ว่าต้องเที่ยวคนเดียวเลยหาข้อมูลมาเยอะหน่อย รีวิวบอกว่าจะขึ้นแท็กซี่ (TAKSI) ที่นี่ต้องบลูเบิร์ดอย่างเดียว เท่านั้นจริงๆแท็กซี่สีเขียวหรือแท็กซี่สีขาว นั้นมันอันตรายมากคนต่างชาติอาจตกเป็นเหยื่อได้โดยไม่รู้ตัวนะคะ

ทันใดนั้นซินเดอเรลล่าก็ หิ้วกระเป๋าสะพายแล่งเรียกบลูเบิร์ดเลยด้วยมาด ผญ บอบบางจ่ะ ปรากฏว่า สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นค่ะ…

ขนาดบลูเบริด ยัง ไว้ใจไม่ได้เลย คิดจะแฮปตังค์เราด้วย. นั่งมาจาก รร. ไป Central park ซึ่งวนอยู่ 3 รอบ เราก็บอกว่าจอดนี่ก็ได้ก็ไม่จอด มิเตอร์วิ่งไป 25300 รูเปีย ควักตังจ่ายไป 100000 พี่แท๊กเขาไม่ทอนนะ! รีบบอกทำนองว่า “โอเครเท่านี้ล่ะ กูไม่ทอนมึงแล้วลงจากรถกูได้” (คือกูเองก็ฟังมึงไม่ออก เห็นเอามือสบัดๆไล่กูลงช้ะ)

ในที่สุด “เกิดเป็นชะนีไทยต้องดิ้นรน บลูเบริดปล้นต้องไม่กลัว”  กวักมือเรียกพี่รปภ.ห้างมาดู พี่แท็กนางก็ไม่กดมิเตอร์นะปล่อยไหลระหว่างเถียงกันอยู่นานเชียว จนมิเตอร์เป็น 27500 เขาทอนมา 50000 ไอ้เราก็บอกโนวๆๆๆไม่ใช่ๆ ต้องทอน เท่านี้ดิ 72500 เอาไอแพตมากดเครื่องคิดเลขให้ดูว่าต้องทอนเท่านี้ๆนะคะ พี่แท็กซี่เค้าก็ไม่ฟังเรา ไม่สนใจเรา พูดทำนองโวยวายๆเหวี่ยงใส่เรา.นึกในใจ”เออสรุปกูไม่เถียงมึงละ 50,000 ก็ 50,000 ก็ไดแว๊…..”

 แท๊กซี่อินโด ( TAKSI ) เห็นชื่อภาษาอังกฤษทีไรทีไรนี่นึกถึงอดีตนายกเลยจ่ะ…

  • สีเขียว สีเหลือง สีแดง…. (เจ้ไม่ได้ขึ้น เขาบอกมาไม่ควรขึ้น)
  • สีขาว Express ก็พอใช้ได้อยู่ เริ่มต้นที่ 6,000 รูเปียห์
  • สีฟ้า Blue Bird (คนที่นี่บอกปลอดภัยสุด) เริ่ม 7,500 รูเปียห์.
  • สีดำ ยี่ห้อ silver bird จะเริ่มต้นที่ 12,000 แพงสุด

รัฐบาลเขาจัดการแปลกอยู่…

  • จัดมีเลนสำหรับรถจักรยาน แต่ไม่มีใครขึ่จักรยาน …
  • คนขี่จักรยาน จะมีแต่ fixed gear อย่างแพง แต่น้อยมากๆๆ ..
  • คนส่วนมากจะใช้รถมอเตอร์ไซค์ เก๋ง
  • ช่วงเวลาเร่งด่วนของที่นี่ จะมีกฎแปลกๆอยู่อย่างหนึ่ง คือ ในรถ 1 คัน จะต้องมีผู้โดยสารอย่างน้อย 3 คน จึงทำให้ช่วงเวลาเร่งด่วน จะมีคนมายืนตามทาง คอยโบกมือเรียก รับจ้างเป็นผู้โดยสารให้ คนที่นี่เค้าเรียกว่า “จ๊อกกี้”
  • มีเลนพิเศษสำหรับรถเมล์ Transjarkata ซึ่งบางทีก็วิ่งตามเลนบ้าง ออกนอกเล่นบ้าง เปลี่ยนสายเองบ้าง ลองขึ้นมาแล้วก็ยิ่งงง จี๊ดกบาลจูง!!
  • ที่นี่มีวินมอเตอร์ไซด์เหมือนกัน แต่ไม่มี uniform เหมือนบ้านเรา มักจอดรถอยู่ตามปากซอย เรียก OJEK (โอเจค) ตอนแรกงงๆว่าอะไร จะชวนไปไหนหราเพ่ ที่แท้ก็คือ พี่วิน นี่เอง
    หลังจากที่ประสบปัญหากับบลูเบิร์ดมาหลายต่อหลายครั้ง ทีนี้ชะนีจะลองเปลี่ยนใจไปนั่งทรานส์จากาตาร์มั่ง คือก่อนมามีแต่คนเตือนว่าอย่าแต่งกายสยิวกิ้ว แอคเซสเซอรี่พร๊อพชะนีอย่าแน่น มันจะอันตรายมาก ไลฟ์สไตล์ชะนีไทยเลยมาเต็ม… บอกเลยว่าเป็นการแมตช์ที่ไม่ลงตัวที่สุดตั้งแต่เกิดมาข่าา คือมันเป็นกลเม็ดหรอกตา ชาวบ้านชาวช่องว่า เอ… นี่คือจะ ก๊อปหรือแท้หรือยังไงของมึงกันแน่ เอาสักอย่างไม๊?
  • อย่าแปลกใจที่คุณเห็นป้ายแบบนี้บ่อยๆที่อินโดนีเซียนะคะ “ป้ายห้ามเปิดกระโปรง”หรือ”ห้ามชีกอ”ล่ะจ่ะ 555+

ตัวอย่างรถทรานซ์จากกาตาร์ของเขาที่คล้ายๆ BRT บ้านเรา แต่แลสังขารสภาพรถน้านเก่ากว่าซัก 1 ชั่วอายุคนได้ จะเป็นรถบัส คันเดียวบ้างแต่ก็จะแบ่งด้านหน้า ด้านหลังชัดเจน โซนด้านหน้าเป็นสำหรับผู้หญิง โซนด้านหลังสำหรับผู้ชาย คือขึ้นไปเป็นอันรู้กันว่าผู้หญิงมายืนด้านหน้า ผู้ชายไปยืนด้านหลัง

 

 

Trans Jarkatar

รถโดยสารประจำทางแบบด่วนพิเศษแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฟังแล้วทึ่งเนาะ แต่มันสร้างมานานแล้วไงตั้งแต่ปี 2004 เอาตรงๆเป็นรถที่งงมาก การเปลี่ยนเส้นทางโคตรงง ขึ้นผิดไปหลายรอบ ใครไม่งงให้ตบ! แต่มันกำหนดเวลาได้ดีกว่ารถยนตร์เพราะรถติดมากจริงๆ เห็นแผนที่สวยสวยแบบนี้อย่าพึ่งมโนไปว่าจะเหมือน บีทีเอส MRT บ้านเรามันคนละอย่างกันเลยยูววว…

วิถีชะนีไทย สก๊อยไม่แพ้ชาติใดในโลก  55555+ เห็นรูปตัวเองแล้ว ทำใจไม่ได้กับเทรนแฟชั่นที่มาแรงแบบนี้นะฮ๊าาาา นั่งBRT แบบเริ่สๆเชิดๆฮ่ะไม่แครโลกค่ะ คือเค้าว่ากันว่ามาอินโดอย่าแต่งชุดสวยงามหรูหราเพราะอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์นะฮร๊าาา ก็เลยต้องเปลี่ยนแอสเซสเซอรี่บางอย่างให้ดูเนียกับวิถีชุมชน ดั่งคำกล่าวที่ว่า “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหิ้วกระทะตาม… ” เดี๋ยวๆ

 

Shopping

Grand Indinesia shopping Town เป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซียซึ่งก็จะมีห้างอื่นๆร่วมกันอีก 3 แห่งด้วยกันอยู่ในละแวกเดียวกันสามารถเดินเชื่อมกันได้สินค้าก็จะมีแบรนด์เนมบ้างแต่ไม่เยอะเท่าบ้านเรา

นอกจากนี้ก็จะมี Plasa Indonesia กะ Seibu ห้างพวกเนี่ยปลอดภัยแต่งตัวสวยเริ่ส เจิดจำรูนได้นะคะคุณขาาาาา

ไปต่อ Thamrin City รีวิวบอกให้ไปซื้อของฝากถ้าบาหลีบาติกอะไรซักอย่างที่นี่โอเค. เอ้าว์! อย่างนี้ก็ต้องไปดิ ไปถึง..ปร๊ะ!!! อารมณ์นี่บ่องตง คือแบบว่าไม่ใช่แนวเราสักเท่าไหร่ โบ๊เบ๊ปั่นรวมกับแพทตินั่มตอนยังไม่ปรับปรุงชัดๆ คนเงียบยั่งกะป่าดิบชื้นนะคะ. ของไม่ค่อยมีอะไรมากค่ะพวกเสื้อผ้าซะเป็นส่วนใหญ่ เสื้อผ้าที่ชาวอิสลามเค้าใส่กันรวมถึงเครื่องประดับต่างๆพวกเครื่องประดับเพชรทองสร้อย  ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงหนังอินเดียบางทีอาจจะร้องออกขึ้นมาบ้างก็ได้นะคะ. 555


 

 

บุหรี่อินโด สุดยอดบุหรี่ ที่สิงลมควันห้ามพลาด…


คนอินโดสูบบุหรี่จัดมากค่ะ โดยเฉพาะผู้ชายสูบเกือบทุกคน ทีแรกก็แปลกใจทำไมไปที่ไหน เจอแต่ smoking area ขนาดห้องอาหาร ห้าง สวนสนุก สระว่ายน้ำ ยังมีโซนนั่งสูบบุหรี่เลยอ้าาา แบบกินไปด้วย ขรี้ด้วย ว่ายน้ำเดินช้อป ก็สูบไปด้วยเง้! บางคนนี่สูบอย่างจัด เรียกว่ามวนต่อมวนทุก 5 นาทีเลยเหอะ บุหรี่ของอินโดแรงมากนะคะ ส่วนตัวเป็นคนไม่สูบบุหรี่ แต่ถ้าเป็นบุรุษอะก็เดี๋ยวว่ากัน 55

เพื่อนอินโดเล่าให้ฟัง… คือบุหรี่ของบ้านเขาจะเป็นบุหรีที่หนักนิโคตินและยาสูบมาก หรือเรียกว่าเป็นสูตรเข้มข้นกว่าบุหรี่ทั่วๆไปในบ้านเราที่มีวางขายกันเรียกว่าน้องๆซิก้าร์เลยก็ได้ คนไทยถ้าเอามาสูบบางทีก็มึนหัวตึ๊บไปเลยก็มี รสชาติจะแรง เข้ม หนัก แล้วรัฐบาลที่นี่เค้าไม่ห้ามเรื่องบุหรี่นะคะ ในอดีตเคยห้ามแล้วแต่ไม่เป็นผล คนที่นี่เฉยชิบมาก เพราะเค้านิยมการสูบบุหรี่กัน ไม่มีการกำหนดอายุขั้นต่ำในการซื้อบุหรี่ อายุเท่าไหร่ก็ซื้อได้หมด อีกทั้งรายได้ส่วนหนึ่งของรัฐบาลที่นี่ ที่เป็นรายได้อันมหาศาลก็มาจากยาสูบนี่แหละค่ะ

 

สาระมั่ง..

อินโดนีเซียก็เป็นประเทศ 1 ที่ส่งออกใบยาสูบจำนวนมาก เขามีวัตถุดิบที่ดีที่สุดในโลกจ่ะ ใบยาสูบที่ปลูกบนดินภูเขาไฟ ให้กลิ่นที่หอมและเข้มข้นบรรดาสิงห์รมควันทั่วโลกเลย ถือว่าบุหรี่ที่นี่ของเขาดีที่สุดในสามโลก…. ทำนองนั้น. ไม่พอบริษัทยักใหญ่หลายเจ้ายังเอาเป็นวัตถุดิบหลักไปผสมซะด้วย คนจะมาสูบบุหรี่ที่นี่จะซื้อเป็นซองเป็นตัวเป็นคอตตอนได้หมดแล้วก็มีหลากหลายยี่ห้อมาก ทีแรกว่าจะสอยกลับไปบ้านแต่พอดีสูบไม่เป็นเลยไม่ซื้อดีกว่า. 55+ ยี่ห้อนี้ซื้อมาให้เพื่อนที่ช่องลองมันบอกว่านิโคตินอย่างแรงมากมากแบบว่าสูบ ตัวนึงนี้อยู่ไปยาวเลย กาแรมนี่หนักสุดๆ. จริงๆก็มีพวกมาโบโร่นะที่สนามบินก็มีขายราคาไม่แพงเท่าไหร่

ลืมแนะนำบรรดาขาช็อปทั้งหลายถ้าที่อินโดนิเซียไม่มีอะไรให้ช็อปเลยหรือไม่ถูกใจเลยสักกะอย่างจะมาชอบบนเครื่องขากลับขอแสดงความเศร้าสลดเสียใจด้วยนะจ๊ะเพราะว่า “เงินอินโดซื้อของบนแอร์เอเชียไม่ได้จ่ะ”

อาหารของชาวอินโด …

มื้อแรกที่จาการ์ต้า ข้าวต้มแยกมากับน้ำซุป น้ำเป็นสีเหลือง รสชาติออกหวาน กินกับเครื่อง ไก่หยอง ไก่ฉีก ไก่กระเทียมเจียว


จานต่อไปจากรูปด้านบนบะหมี่อินโดน้ำซุปก็เครื่องเทศ มีกระเทียมเจียว หน้าตาเหมือนข้าวซอยเชียงใหม่แหละค่ะ แต่ชอบข้าวซอยบ้านเรามากกว่า…55 รสชาติจะออกเค็มเค็มมันมันนิดนึงกลิ่นเครื่องเทศค่อนข้างจัดมันจะมีติดรสมันมัน เล็กน้อยนะคะต้องใช้มะนาวดับ ออ นอกจากอาหารพวกนี้แล้วแล้วลืมบอกไปว่าคนอินโดมีวัฒนธรรมในการรับประทานของว่างก่อนเริ่มทานอาหารคล้ายๆกับ จาน Apperticer ของฝรั่งเลย

ร้านอาหารอินโดนีเซียเกือบทุกร้านประมาณ 95% ได้มั้ง จะมีข้าวเกรียบ มาให้เกือบทุกร้านค่ะ หยิบเองได้ได้ทานฟรีได้ไม่อั้น ข้าวเกรียบจะถูกนำมากินกับน้ำจิ้มสีดำลักษณะเป็นน้ำซอสหวานหวานหรือจะเติมความเผ็ดด้วยซอสพริกก็ได้ และส่วนใหญ่เค้ากินแบบเปิบมือนะจ้ะ เพราะนั้น ไม่มีช้อนกับส้อม แต่มีตะเกียบมาให้ถ้าเราไม่ชินเราก็สามารถขอช้อนกับส้อมได้นะ อาหารส่วนมากเป็นไก่ เนื้อ เพราะคนที่นี่เป็นมุสลิม อาหารพื้นเมืองก็รสชาติดี แต่ส่วนใหญ่แย่มากกว่า.. 55 รักอาหารบ้านเราอ่ะ

ข้าวเหนียวแดงเอามากินกับโยเกิร์ตหรือนมสดแปลกดีเนาะ!! ถ้านึกถึงบ้านเราข้าวเหนียวแดง เอามาทำเป็นขนมหวานก็จะต้องใส่น้ำเชื่อมและน้ำกะทิกวนให้เค้าเหนียวแดงกับน้ำเชื่อมมีเนื้อเดียวกันจะออกรสเป็นมันส์มันส์วันหวานเล็กๆ แล้วเติมด้วยน้ำกะทิซึ่งมีรสเค็มหน่อยหน่อย แต่แปลกมากคนที่นี่เค้ากินข้าวเหนียวแดงต้มน้ำออกรสชาติ. จืด กินกับนมสดจืดเช่นกัน แต่ถ้ากินกับโยเกิร์ตรสชาติจะอมเปรี้ยวมันๆข้าวเหนียวแดงนิดหน่อย แปลกดีนะ เค้าเรียก Bubur Ketan Hitam


มาถึงนี่นักกินอย่างเราก็ต้อง มาสำรวจซุปเปอร์มาร์เก็ตกันหน่อย ซุปเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่ก็จะมีอยู่ในห้างชั้นล่างเหมือนบ้านเราด้านบนก็จะเป็นแหล่งช้อปปิ้งเครื่องสำอางเสื้อผ้าตามปกติ ถ้ามาที่เซ็นทรัลปาร์คก็จะมีคาฟูร์ อยู่ด้านของล่างที่นี่ อ่อลืมบอกไปอินโดนีเซียซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่ของเค้าก็คือคาฟูนี่แหละ นอกนั้นก็เป็นอารมณ์ซุปเปอร์มาร์เก็ตหยี่ปั๊วซาปั๊วะ อะไรก็ตามแต่เถอะ จะไม่หลายหลายเหมือนบ้านเรา มีทั้งบิ๊กซี ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต เซเว่น โลตัส โลตัสเอ็กซ์เพรส แฟมิลี่มาท คือเข้าใจอารมณ์เยอะขอบคนไทยแงะ แบบว่าชีวิตฉันมีทางเลือก ถ้ารู้สึกของบิ๊กซีแพง อิฉันไปโลตัสจะไม่ง้อ. บางทีก็ไม่อยากเข้าเซเว่น แฟมิลี่มาทก็ได้

หลังจากที่ได้สำรวจมาก็พบว่าบางอย่างก็ราคาใกล้เคียงกับบ้านเรา แต่บ้านเค้าชอบมีพวกอบอบทอดทอดเป็นแพคๆ ขาย แบบซองพลาสติดกใสใสเหมือนขนม 5 บาทอ่ะ แล้วก็โยเกิร์ตบ้านเขาแพงกว่าบ้านเรา. ฮ่าฮ่าฮ่าคือเป็นชะนีที่กินโยเกิร์ตของทุกที่โยเกิร์ตนี้ไม่ว่าไปที่ไหนก็ต้องกิน

ฟิชเชอร์แมนเฟรนมีรส Blackcurrant Apple ด้วย สอยมาลองละ เย็นกระเดือกพอกันข่าราคาตีเป็นเงินไทยก็ 33บ.

อัลม่อนของโปรดเจ้ บ้านเรา 30 บ. ที่นี่เกือบ 60 … แน่ะ!

อีน้ำอันนี้ก็ไม่รู้น้ำอะไรอร่อยมากกกกกก “น้ำทุเรียนเทศ” โดนไปละ2 ขวด บางคนก็บอกว่าเป็นทุเรียนป่าบางคนก็บอกว่าเป็น ทุเรียนเทศ บางคนบอกว่าเป็น น้อยหน่า. แต่ที่รู้รู้คือมันไม่มีขายในไทยและมีหลายคนพยามจะนำเข้ามาขายเพราะว่าเป็นผลไม้ที่หากินยากและมีสารแอนตี้ออกซิแดนซ์สูง ป้องกันมะเร็งได้. เราก็ไม่รู้หรอกแต่เห็นรสชาติมันอร่อยดีออกเปรี้ยวเปรี้ยวอมหวานหวานอร่อยมากๆถ้าไปต้องลอง


ลองมาและ อาหารตามสั่งคือสั่งมั่วๆไงไม่รู้ภาษา ได้มาเหมือนเอาเนื้อกับเครื่องเทศมาขยำๆรวมกัน มักจะเห็นร้านอาหารแบบนี้ทั่วๆไปทัวร์อินโด. การจัดวางรูปแบบร้านก็จะเหมือนเหมือนกันไม่มีอะไรแตกต่างอาจต่างกันนิดหน่อยที่ราคา ความอร่อย แค่นั้นเอง

อันนี้ก็อร่อยนะ เหมือนครีมฮอนบ้านเรา แต่เนื้อครีมข้างในมันจะมันส์มันส์กว่าแล้วก็ไม่หวานมาก อร่อยดี ตกละ 30 บ.มาม่าก็ต้องมาคร้าา ได้ข่าวว่ามาม่าที่นี่อร่อยหลายรสอยู่ เส้นนางนุ่มใหญ่คล้ายๆ บะหมี่เกาหลี เลยต้องลองหน่อย มาม่าไทยก็มีไปขายนะ แต่ซอง ละ 40 บาท


7-11 ดั่ง สยาม…

เซเว่นที่นี่ ชะนีก็ เปรียบให้เสมือนดั่งสวรรค์ของวัยรุ่น ประหนึ่งสถานที่แฮงค์เอ้าสุด cool เซเว่นไม่ได้มีเยอะเหมือนบ้านเรานะแต่ก็สามารถหาได้จากหลายหลายเส้นถนน เซเว่นที่อิฉันเข้าไปเจอมี counter ให้นั่งจ่ะ กะเก้าอี้อีกประมาณ 10 ตัว ก็ไม่แปลกเพราะอย่างที่ไต้หวันก็มีเคาน์เตอร์คนมานั่งกินข้าวก็ดูจะธรรมดาที่ไม่ธรรมดาคือ ข้างหน้าเซเว่นมีโต๊ะเก้าอี้ มีร่มให้นั่ง มีบรรดาวัยรุ่นแต่งตัวแนวฮิพฮอพอินโด เสื้อลายๆๆเยอะๆ อัลไลยังง๊าน แบบมานั่งเก็กๆเท่ๆจิบสเลอปี้ดูดบุหรี่เป็นกรุ๊ปแกงค์ …

วัยรุ่นที่นี่ ถ้ามาเมืองไทยก็คงจะงงเพราะเห็นมีแต่หมานั่งอยู่หน้าประตูเซเว่นบ้านเรา 55+

จบล๊ะ อิอิ ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะไว้มีทริปต่อไปไม่พลาดจะนำมาฝาก อย่างแน่นอนค่ะ^^