ทริป 5 ประเทศในยุโรปตะวันออก นี้เกิดจากความตั้งใจที่ว่าอยากจะตามรอยประวัติศาสตร์โลก เราเป็นประเภทชอบอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องในอดีต เคยตั้งคำถามกับตัวเองถึงคำพูดที่ว่า”ผู้แพ้ ไม่มีสิทธิ์พูด ประวัติศาสตร์เขียนขึ้นได้เฉพาะผู้ที่ชนะ” คำนี้ใช้กะใครรู้ไหม?   คนที่คุณก็คิดว่าเป็นอาชญากรแห่งประวัติศาสตร์โลกอย่าง “ฮิตเลอร์” จึงเป็นเหตุให้ครั้งหนึ่งในชีวิตตั้งใจไว้ว่าจะไปเยือนชาติอักษะในสงครามโลกครั้งที่2 ให้ได้ ซึ่งไทยเราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเคยเข้าร่วมบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ในสงครามครั้งนี้ด้วย เหล่านี้เป็นชาติในยุโรปตะวันออก ทั้ง 5 ประเทศ มี ออสเตรีย เยอรมัน เช็ก สโลวัค และ ฮังการี

 

เคยได้อ่านประวัติศาสตร์โลก สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วทำให้คิดถึงว่า ใครเป็นคนบันทึกหน้าประวัติศาสตร์เหล่านี้ แน่นอนค่ะอเมริกา ระหว่างนั้นที่เราศึกษาก็มีคำถามคาใจตลอดมาว่าทำไม ดูอเมริกาจะเป็นฝ่ายที่ทำดี ทำถูก สร้างเสรีภาพ ให้กับมวลมนุษยชาติ เพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง กลับกัน”ฮิตเลอร์”เป็นเผด็จการตัวฉกาจ อันดับ 1 ของโลกในสมัยนั้น เป็นคนที่ น่ากลัว เหี้ยมโหด แต่ทำไมยังมีหลายคนนักที่ก้มหัวสวามิภักดิ์ต่ออุดมการของเค้าได้ขนาดนี้

หัวข้อนี้ขอนอกเรื่องกินเที่ยว ช๊อปนิดนึงนะจ๊ะ ….

หวังว่า ผู้อ่านจะเข้าใจ ในตัวผญ.ตัวน้อยๆคนนึงอย่างศรี ที่ชอบอ่านเรื่องประวัติศาสตร์มากค่ะ เขียนไปๆยิ่งเขียนยิ่งอินอารมณ์มาเต็ม เคยคิดว่าอดีตชาติตูคงเกิดเป็นทหาร ตายในสมรภูมิรบอะไรยังไงยั่งง้านอ่าา….

“ผู้แพ้” ไม่มีสิทธิ์แก้ตัว “ประวัติศาสตร์” เขียนได้เฉพาะ”ผู้ชนะ”…

สืบเนื่องมาจาก สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

– “เยอรมันแพ้สงคราม” เป็นธรรมดาของผู้แพ้ในสงคราม คนเยอรมันส่วนใหญ่ถูกเกณฑ์ไปใช้แรงงานบ้าง เนรเทศไปเป็นทาสบ้าง อพยพบ้าง บ้างก็ถูกกดขี่ ขมเหง อดอยาก ไร้ที่อยู่อาศัย ยากจน…  ในขณะนั้นฮิตเลอร์ยังคงเป็นเด็กที่อาศัยอยู่กับแม่ และพ่อเลี้ยงซึ่งมีตำแหน่งทางทหาร เค้าไม่รู้แน่ชัดว่าใคร? คือพ่อที่แท้จริงของเค้า ฮิตเลอร์น่าจะเป็นเด็กคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตแบบปกติธรรมดา มีหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ดูแลในโบสถ์ ที่มาจะนับถือพระเจ้ามีจิตใจโอบอ้อมอารีเหตุใด ชาวออสเตรียคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ที่มาผู้นี้…. ครองเยอรมันนีได้อย่างไร ?

– ฮิตเลอร์เติบโตมาเหมือนเด็กปกติ เค้าพยายามสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแต่สอบไม่ผ่าน ความคิดแว๊บนึงเค้าอยากเป็นทหารเหมือนพ่อของเขา โชคชะตาทำให้เขาได้ประดับยศทหารดั่งตั้งใจ ด้วยเหตุที่ขณะนั้นเริ่มมีสงคราม สงครามทำให้เด็กหนุ่มทุกคนต้องเข้ารับการรายงานตัวเพื่อรับใช้ชาติในที่สุดซึ่ง…

– ในขณะนั้นเขาเป็นเพียงพลทหาร ยศสิบโท พลนำสาส์นที่ตกเป็นเชลยสงคราม ถูกกดขี่เยี่ยงทาส ทั้งตี โขกสับ ต่างๆนานาจากชนชาติผู้ชนะสงคราม ซึ่งกลุ่มคน พวกนี้คือ”ชาวยิว” ตามกฏหมายนาซี ฮิตเลอร์ไม่เข้าเกณฑ์ที่เรียกว่าการ”ปกป้องสายเลือด” ซึ่งกำหนดให้ชาวเยอรมันผู้ไม่อยากถูกสังหาร ต้องพิสูจน์ว่าไม่มีใคร ในปู่ ย่า ตา ยาย ทั้ง4คนเป็นยิว เพราะเค้าไม่รู้ว่าใครคือปูแท้จริงของเขา ทำให้เขาไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มภาคภูมิว่าเค้าไม่ใช่ “ยิว” หากแต่ลึกๆในจิตใจ เค้าเก็บเอาความเกลียด เครียดแค้นยิวแบบเข้ากระดูกดำเอาไว้

– ทางฝั่งการเมือง “เยอรมัน ต้องส่งปฏิกรณ์สงคราม” ให้กับฝรั่งเศษหลังจากพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ปฏิกรณ์สงครามหมายถึงไม่ว่าเยอรมันมีทรัพยากรธรรมชาติอะไร.ก็ต้องตกเป็นของชาติผู้ชนะไม่วาาจะเป็น ผลผลิตทางการเกษตร ประชากร กำลังคน ถ่านหิน เหมือง หรืออะไรก็ตามที่ผลิตได้ ทุกอย่างต้องตกเป็นของฝรั่งเศษทั้งหมด ภาพต่างๆเหล่านี้ถูกย้ำในความรู้สึกเรื่อยมาในสมัยวันหนุ่มของเค้า ความคิดของเค้ามันยิ่งชัดเจน เค้าเก็บความเคียดแค้นยิวเอาไว้ รอ…..วันเอาคืน

– ความไม่เป็นธรรมของ “สนธิสัญญาแวร์ซายส์” และสัญญาสันติภาพฉบับอื่นๆ ซึ่งทำภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ถูกบังคับให้เยอรมันลงนามในสัญญา เงื่อนไขที่เกินกว่าจะรับไหว จาก ฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐ ที่กำหนดให้เยอรมันเป็นชาติเดียวที่จะต้องรับผิดชอบการสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่ 1 พร้อมกับชดใช้ค่าเสียหายมหาศาลทั้งหมด นำมาซึ่งความล่มสลายทางเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของเยอรมันนี

– เยอรมันนีนับว่าเป็น”ชาติอุตสาหกรรม”ตั้งแต่ในอดีต ทั้งเครื่องจักร วิวัฒนาการ ยุทโธปกรณ์ ก้าวล้ำกว่าชาติอื่นเสมอๆ ทรัพยากรถ่านหิน เมืองแร่ในเยอรมันมีก็ยังคงมีมาก แต่เมื่อพ่ายแพ้สงรามคเยอรมนีสูญเสียแทบจะไม่เหลืออะไรเลยไม่พอเท่านั้น แต่ที่แย่ที่สุดคือ การแยกรัสเซีย ตะวันออกจากเยอรมันนี ไปสร้างใหม่เป็นประเทศใหม่”โปแลนด์” การแบ่งแยกนี้ทำให้มีทางออกของทะเล ทางเชื่อมของโปแลนด์เป็นประเด็นเรื่องของผลประโยชน์อันมหาศาลที่ก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2ในที่สุด

 

 

-“ฮิตเลอร์”นับว่าเป็นสุดยอด”นักวาทะศิลป์”แต่เด็ก  เค้าเข้าไปทำงานในหน่วยสื่อสารทหารเริ่มใช้วาทะกรรมที่เร่าร้อนเผ็ดมันของเค้า ชักจูงกลุ่มทหารกลุ่มหนึ่งให้คล้อยตามกับแนวคิดของเค้า เค้าใช้คำพูดเพื่อโน้มน้าวใจคนได้ดั่งโดนสะกด เค้าเริ่มปลุกเร้าความคิดของคนโดยรอบขณะเดียวกันเค้าก็เริ่มมียศทางทหารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และชูนโยบายต่อต้าน”สนธิสัญญาแวร์ซาย”กับความคิดสุดโต่ง ตอกย้ำเป็นธรรมต่อชาวเยอรมันเอาซะเลย เค้าปลุกระดมกำลังฮึกเหิมของผู้อยู่ใต้อาณัติอำนาจของเค้า คนที่ยากจน คนใช้แรงงาน ทาส ผู้อพยพ ให้เห็นคล้อยตาม จากการใช้นโยบายยึด”เลเบนสเราม์”(พื้นที่อยู่อาศัย) เป็นของชาวเยอรมัน ไม่แปลกเลยถ้าผู้คนจะเห็นด้วยกับเค้า อย่างไม่มีข้อสงสัย

– การโน้มน้าวของฮิตเลอร์นับว่าได้ผลเป็นอย่างดีเกินคาด จากแนวร่วมนาซี 2000 ขยายกลายเป็น 20,000 คนและเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว ในสมัยนั้นเรื่องการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญที่สุดฮิตเลอร์ได้แนวร่วมคนสำคัญ ผู้ควบคุมสื่อสิ่งพิมพ์ฉบับหนึ่ง และเป็นบรรณาธิการ ของ”หนังสือพิมพ์เหยียดสี” ตีพิมพ์เรื่องการเหยียดชาวยิวอย่างรุนแรง โดยบรรณาธิการเป็นคนเขียนปลุกระดมต่างๆจนเป็นที่มาของเหตุ”สังหารหมู่ชาวยิว”ในที่สุด

เหตุการณ์สังหารหมู่ชาวยิวเกิดขึ้นที่ “ค่ายเอาชวิตซ์” (Auschwitz)

ค่ายนี้สร้างขึ้นเพื่อสังหารชาวยิวด้วยการรมแก๊สพิษและเผาในเตาเผา โดยมีเหยื่อที่โดนถึง 1,200,000 จากที่ต่างๆ ทั่วยุโรป จํานวน 22 ล้านคน ไปที่ค่าย โดยขนไปทางรถยนต์ รถไฟ และเรือเดินสมุทร ไม่ว่ากองทัพฮิตเลอร์จะเคลื่อนทัพไปบุกยึดที่เมืองใดชาวยิวที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นไม่มีสิทธิ์รอดเหงื้อมมือของฮิตเลอร์เลยแม้แต่คนเดียว กองทัพของเค้ายิ่งทวีความอหังการ์ ด้วยยุทโธปกรณ์ที่ผลิตขึ้นใหม่ทั้งหมด เค้ากวาดต้อนชาวยิวและสังหารทิ้งอย่างเลือดเย็น สำหรับฮิตเลอร์แล้วยิวเป็นชนชาติที่เห็นแก่ตัว เป็นชนชาติกินไม่สมควรมีอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้

ภาพค่ายเอาชวิตซ์ ปัจจุบันสภาพยังเหมือนเดิมทุกประการไม่ว่าเตารมแก๊ส เตาเผา ค่ายพัก คุก ที่ยังคงมีกลิ่นแห่งความตายติดมาด้วย

 

ภาพจาก dekdee.com

– เยอรมันนี เริ่มแข็งข้อไม่จ่ายค่าปฏิกรณ์สงครามใดๆตามสนธิสัญญาแวร์ซาย ฝรั่งเศส ไม่ยอมในความแข็งข้อนี้ บุกเข้ายึดเมือง ซึ่งเป็น”เหมืองถ่านหิน”ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมันนี เพื่อเป็นการตอบโต้ ผู้คนอดอยากล้มตายสงครามยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่ง

-มีภาพๆหนึ่งที่ปลุกเร้าคนเยอรมันให้ลุกฮือขึ้นต่อกลอนกับชาติพันธมิตรแบบเฮือกสุดท้าย “ภาพร้อยโทปิแอร์ โกแบง” นายทหารฝรั่งเศสซึ่งถูกสังหารระหว่างการรบ มีการแห่ศพผ่านหัวเมืองต่างๆในเยอรมัน ทุกครั้งที่ขบวนส่งศพเคลื่อนผ่าน ชาวเยอรมันคนใด”ไม่ถอดหมวกก้มหัวคารวะ” จะถูก”ตบหัว” “ตบหน้า”อย่างแรงจากทหารฝรั่งเศษ  ภาพติดตาฝังใจนี้ เป็นอีกหนึ่งภาพประวัติศาสตร์ที่ตรึงตาชาวเยอรมันอย่างยิ่ง และถูกนาซีทำไปนำไปใช้ประโยชน์อย่างได้ผล ปลุกเร้าให้นาซีคุมอำนาจได้เป็นผลสำเร็จ

– ฮิตเลอร์พยายามก่อรัฐประหารหลายต่อหลายครั้งจนเริ่มเป็นที่รู้จักและดังมากขึ้นในครั้งที่ทำรัฐประหาร “กบฏโรงเบียร์”ในเมืองมิวนิก แต่ล้มเหลว ฮิตเลอร์ถูกจับและจำคุก 1 ปี พรรคสังคมนิยมถูกยุบ ฮิตเลอร์ถูกกล่าวหาว่าทรยศต่อชาติถูกตัดสินประหารชีวิต ลูเดนดอฟ เพื่อนและแนวร่วมของเค้า ช่วยเค้าให้ผลโทษจากรัฐบาลเยอรมันในฐานก่อกบฏ ภายหลังจากที่เขาถูกจำคุกมาสามเดือน

– หลังจากพ้นโทษ”ฮิตเลอร์”เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยเข้าร่วม”พรรคกรรมกรเยอรมัน” ซึ่งเป็นพรรคการเมืองก่อนหน้าพรรคนาซี และเริ่มมีผลงานจนได้รับการสนับสนุน จากบุคคลสำคัญและแต่งตั้งเค้าเป็น”หัวหน้าพรรคนาซี” แน่นอนเค้าได้รับการเลือกตั้ง!!!  พลิกประวัติศาสตร์ของยิ่งใหญ่ของเยอรมัน

– ฮิตเลอร์เอาเงิน อาวุธ มาจากไหน? เขาได้รับความร่วมมือจากแนวร่วมนาซีระดับล่าง และผู้ฝักไฝ่ที่ร่ำรวย เช่น ฟิดจ์ ทิสเซ่น (Thyssen) เจ้าพ่อวงการเหล็กพร้อมยอมให้โรงงานเหล็กของเค้าผลิตปืนใหม่ รวมถึงเจ้าพ่อวงการรถยนตร์แห่งใหญ่ เฮนรี่ ฟอร์ด (Ford) ด้วย

– ชนวนเหตุ สงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเกิดจากการฉีกสนธิสัญญาแวร์ซายของเยอรมนี.และโจมตีโปแลนด์ เรียกร้องขอดินแดนฉนวนดานซิก คืนทำให้อังกฤษและฝรั่งเศส ที่ยึดครองโปแลนด์อยู่ในขณะนั้น ประกาศสงครามกับเยอรมนีทันที ต่อมาเมื่อการรบขยายตัว ทำให้นานาประเทศที่เกี่ยวข้องถูกดึงเข้าร่วมสงครามเพิ่มขึ้น ( 1 กันยายน ค.ศ.1339)”อิตาลี” มิตรแท้ของนาซีเข้าร่วมยุธการภายหลังจากที่นาซีได้รับการเลือกตั้ง

ภาพจาก Onenee.com

– เยอรมันเริ่มขยายฐานอำนาจด้วยกันบุกเข้ายึดครองเชคโกสโลวเกีย ฮังการี พันธมิตรเก่าแก่ร่วมสนับสนุนเยอรมัน

– เยอรมันผนวกออสเตรีย เขียนสนธิสัญญา แกนเบอร์ลิน – โรม (เยอรมัน & อิตาลี) ต่อมาประเทศญี่ปุ่น เข้ามาทำสนธิสัญญาด้วย กลายเป็นสนธิสัญญา “แกนเบอร์ลิน – โรม – โตเกียว เอ็กซิส”

– ญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรของเยอรมนี เปิดฉากสงครามโดยโจมตีอ่าวเพิร์ล ฐานทัพของสหรัฐอเมริกา ในหมู่เกาะฮาวายเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ.1941 ทำให้สหรัฐอเมริกาประกาศเข้าร่วมสงครามฝ่ายเดียวกับชาติพันธมิตรอย่างเป็นทางการ

ความแตกแยกในครั้งนี้จึงถูกแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ดังนี้

“ฝ่ายพันธมิตร” ซึ่งมี อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียต

“ฝ่ายอักษะ” มี เยอรมนี ญี่ปุ่น และอิตาลี

 

 

– ภายใน 1 ปี เยอรมนีมีชัยเหนือยุโรปตะวันตกเกือบทั้งหมด คงเหลือเพียงสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพที่ยังเป็นกำลังหลักต่อสู้  ธงสวัสดิกะปลิวสะบัดอยู่เหนือแผ่นดินบางส่วนของรัสเซีย เหนือแหลมบอลข่าน กรีซ ฝรั่งเศสและประเทศทางภาคใต้ของยุโรป รวมไปถึงแอฟริกาเหนือ โปแลนด์ นอร์เวย์และเดนมาร์กด้วย  นี่คือความสุดยอดของฮิตเลอร์

– ฝ่ายจักรวรรดิญี่ปุ่น ซึ่งกำลังทำสงครามกับจีนมาตั้งแต่ ค.ศ. 1937 ด้วยปราถนาจะยึดครองเอเชียทั้งหมด จึงฉวยโอกาสโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ และส่งทหารบุกครองหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และขยายดินแดนออกไปอย่างกว้างขวางและรวดเร็วเช่นกัน
– อำนาจอันล้นเหลือจากรุกคืบของฝ่ายอักษะยุติลงใน ค.ศ. 1942 หลังความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่น และหลังความพ่ายแพ้ของฝ่ายอักษะยุโรปในอียิปต์และที่”สตาลินกราด” เยอรมนีพ่ายการรบ ทำให้ฝ่ายอักษะล่าถอย เหตการณ์ในสตาร์ลินการ์ด

– สตาร์ลินการ์ด

เมืองที่เต็มไปด้วยการนองเลือด ระหว่างทัพรัสเซียและเยอรมัน มากว่า 1 ปีเต็ม การรบเป็นไปอย่างยืดเยื้อเรื้อรัง ทหารเยอรมันสูญกำลังไปนับล้านคน รถถังอีกนับร้อย เพราะโซเวียตรู้ชะตากรรมตัวเองดีว่า หากเสียเมืองนี้จะไม่มีใครต้านทานกองทัพเยอรมันได้อิกแล้ว

ทัพเยอรมัน ตั้งด่านรบด้วยกำลังพลที่มากกว่า 12:1 เท่าตัว กำลังอาวุธที่มากว่า 7 เท่า ฮิตเลอร์ใช้วิธีการบุก จากภาคพื้นดินก่อนแล้วตามด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดอีกเป็นจำนวนมาก ยุทธศาสตร์การรบแรกของโซเวียดคือ “โล่มนุษย์” กำแพงมนุษย์เพราะโซเวียตมีประชากรเยอะมากและไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์มากพอเมื่อเทียบกับทัพเยอรมัน  สิ่งที่โซเวียตทำได้คือเอาคนมายืนดาหน้าเรียงกัน ปล่อยให้ศัตรูยิงร่วงไปๆเป็นล้านล้านคน อีกด้านหนึ่งก็กำลังคิดวิธีการถอดรหัสเครื่องมือสื่อสารของเยอรมันนีที่เรียกว่า “Enigma” เยอรมันพังทลายแนวกันของโซเวียตอย่างง่ายดาย คร่า ชีวิตผู้คนไปกว่า 40,000 คนในทริปตาเยอรมันแบ่งทัพเป็นสามทางเข้าโจมตีเพื่อยึดท่าเรือสำคัญของสตาลินกราด โซเวียตรู้ดีว่าการรบครั้งนี้จะแพ้ไม่ได้ ถ้าเขาแพ้ เท่ากับสิ้นชื่อสหภาพโซเวียตผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล  การรบครั้งแรกโซเวียตเพลี้ยพล้ำ “ทหารแดง”ทหารโซเวียตเสียชีวิตไปหลายพันนาย ประชากรวัยหนุ่มถูกเกณฑ์มาเพื่อปลิดลมหายใจรับใช้ชาติและแผ่นดินเกิด  พวกเขาต่อสู้เพียงเพื่อเอาชีวิตรอด…

หลังแพ้ศึกในครั้งนี้ทำให้เยอรมันนำทัพข้ามแม่น้ำดอนมาได้สำเร็จ เยอรมันบุกประชิดสตาร์ลินการ์ดได้เป็นผลสำเร็จ เข้าเมืองพร้อมอาวุธครบมือ หากแต่ยังไม่สามารถยึดสตาร์ลิการ์ดได้สำเร็จเท่านั้น เหตุใดน่ะหรือ? เมืองสตาร์ลินการ์ดเป็นเมืองที่เคยเจริญมาก่อน ก่อนการอพยพ ผู้คนหนีสงคราม ทิ้งไว้เพียงเมืองร้างกะหลุมหลบภัย ทำให้มีตึกรางบ้านช่องที่ไม่มีใครอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก. ความฉลาดของโซเวียตคือ เค้าอาศัยุทธศาสตร์นี้ให้เกิดประโยชน์.

!! กลายเป็นสัญลักษณ์สู้เพื่อชาติพวกเขาพร้อมจะสู้จนตัวตายเพื่อปกป้องพื้นที่แห่งนี้เอาไว้

“สงครามกองโจร” เริ่มขึ้นที่นี่ เป็นสงครามแห่งศักดิศรีสุดท้ายของโซเวียต และเค้าจะเพี่ยงพล้ำอีกครั้งไม่ได้ นายพลชุยคอร์ฟถูกส่งมาประจำการรบครั้งนี้ คำสัตย์ปฏิญาณของเค้าทำให้ทหารผู้รอดชีวิตที่เหลือ ยืนหยัดได้อีกครั้ง “ตราบใดที่เค้ายังหายใจอยู่สตาร์ลินการ์ดต้องยังอยู่ เค้าเกิดมาเพื่อปกป้องทุกคน” นายพลคนใหม่เริ่มแผนการทันที ทหารและกำลังรบชุดสุดท้ายของโซเวียตจะต้องชี้เป็นชี้ตายชะตาแผ่นดินเกิดของพวกเขา  ทหารโซเวียตหลายพันนายถูกวางกำลังสุ่มโจมตีข้าศึก ตามตึกร้าง บ้านเรือนที่ไร้ซึ่งชาวบ้าน กลายเป็นกับระเบิดที่ถูกวางซ่อนในหลายจุดของมุมตึก กับกดัและหลุมพลางถูกเตรียมการขึ้นในเวลาอันสั้น สไนเปอร์ถูกส่งมาเพื่อโจมตีข้าศึกแบบระยะประชิด ในขณะที่เยอรมันกำลังชะล่าใจ อีกชื่อที่เรียกกันของกองทัพเยอรมันคือ กองทัพที่ 6 มีทหารหลักล้านนาย พลรถถังอิกนับร้อย เริ่มเคลื่อนพลเค้ามาตั้งทัพในสตาร์ลินการ์ด ในขณะที่ฝ่ายโซเวียตนั้นกำลังรอเวลา….

หลังจากทัพเยอรมันเคลื่อนกองกำลังเข้ามาในสตาร์ลินการ์ดจนครบ โซเวียตเปิดฉากเด็ดหัวทหารเยอรมันทันที เหล่ามือปืน “สไนเปอร์”ที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดีเป็นกำลังที่สำคัญยิ่งต่อสงครามกองโจรของโซเวียตคร้ังนี้ หากแต่แผนการสงครามกองโจรที่ใช้เด็ดหัวทหารเยอรมันทำได้เพียงแสนเยอรมันยังมีกำลังรบได้อิกมาก ทำให้การต่อสู้ยังคงยืดเยื้อ และขณะเดียวกันทหารโซเวียตเองก็บาดเจ็บและเสียชีวิตไปจำนวนหลายแสนนาย ทหารขวัญหายไปพร้อมกับเสียงทิ้งระเบิดลูกแล้วลูกเล่าของเยอรมัน ประชาชนในหลุมหลบภัยหมดสิ้นซึ่งความหวัง…

“เราต้องมีหวัง เราถึงจะชนะ” เกมส์การรบที่ชาญฉลาดถูกนำมาใช้อีกครั้ง เพื่อจุดแสงแห่งความหวังที่ริบหรี่เต็มที่ของทุกคน สไนเปอร์ นายหนึ่งผู้ไม่มีตำแหน่งชั้นยศทางหารพิเศษใดๆ เค้าเป็นคนอาสาตัวเองออกมาร่วมศึกในครั้งนี้ พ่อเป็นอดีตพลานล่าสัตว์ในป่า ทุกครั้งที่เหนี่ยวไกจึงไม่เคยพลาดเป้า เค้าเกิดมาเพื่อเป็นผู้พลิกเกมส์ประวัติศาสตร์การรบครั้งยิ่งใหญ่จริงๆ กำลังใจของทหารโซเวียตกลับมาอิกครั้งหลังจากที่มีการประกาศออกสื่อหนังสือพิมพ์และวิทยุถึงความห้าวหาญของสไนเปอร์คนนี้ เค้าทำได้อย่างแยบยล เค้าเด็ดหัวนายพลทัพหน้าของเยอรมันหลายต่อหลายคน ทุกครั้งที่ปลิดชีพศัตรูได้ ยิ่งสร้างความหึกเหิมให้กับทหารและประชาชน ทหารและชาวบ้านกลับมามีความหวังอีกครั้ง เค้าเด็ดหัวทหารเยอรมันไปราวๆ 800 กว่าคนในระหว่างการรบ…

หลังจากที่โซเวียตปิดล้อมผ่านไปแล้วมันจำนวนราว 400,000 คนไว้ได้ในสตาร์ลินกร์าด และปฏิบัติการเริ่มตัดกำลัง ความช่วยเหลือจากเยอรมันก็มาถึง จากที่เคยส่งอาหารและเสบียง รวมถึงอาวุธผ่านทางเครื่องบินลำเลียงมาสู่ใจกลางสตาร์ลินการ์ด โซเวียตเริ่มใช้แผนตัดกำลัง คริสมัสอีฟ 2542 รถถังเยอรมันปรากฏขึ้นท่ามกลางหิมะที่ขาวโพลน เข้าโจมที่ฐานทัพอากาศโดยการสุ่มโจมตีเครื่องบินลำเลียงเหล่านั้นและส่งรถถังเข้าโจมตีฐานทัพอากาศเยอรมัน ทำให้ทหารเยอรมันไม่มีเครื่องบินลำเลียงส่งอาหารและอาวุธ อาหารเริ่มคลาดแคลน อาวุธร่อยหรอลง จากทหารนับล้านของ กองทัพที่6 เยอรมัน ตอนนี้เหลือทหารเพียง 250,000 นายเท่านั้น  พวกเขาเริ่มขาดแคลนอาหารและอาวุธ อีกทั้งความหนาวเหน็บของอากาศที่ไม่คุ้นชิน ทหารเยอรมันเริ่มล้มตายไปทีละคนทีละคน…

กองทัพโซเวียตสูญเสียกำลังพลเป็นจำนวนมากและไม่ต้องการให้เยอรมันกู้ทัพที่หกคืนมาได้ คติประจำใจตอนนั้นคือ”ห้ามถอยเด็ดขาดและจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้เพียงตารางนิ้วเดียว เว้นเสียแต่ฆ่าเราทิ้งซะ” ฮิตเลอร์ ส่งหน่วย”พลันเซอร์”เข้าช่วยเหลือ โซเวียตส่งรถถัง350 คันเข้าสกัดกั้น การสกัดกั้นครั้งนี้ทำให้เยอรมันเสียเวลาไปมาก ขณะที่ฮิตเลอร์ไม่มีเวลามากที่จะช่วยกองทัพที่หกที่ถูกปิดล้อมอยู่ ทหารเที่ยวรอคอยความช่วยเหลือเริ่มล้มตายจากความอดอยาก บาดแผล และตัวเย็น รัสเซียได้รับชัยชนะที่สตาร์ลินการ์ดในที่สุด

“ยุทธการถล่มนาซี” ก็เริ่มต้นขึ้นในเวลาไม่นาน เพื่อปราบเยอรมันให้อยู่หมัด ในยุคสมัยนั้นนับว่าเรื่องการสื่อสารสำคัญมาก การรบของเยอรมันดุดันเพราะความแม่นยำของการสื่อสารที่ข้าศึกไม่สามารถจับทิศทางและอ่านเกมได้ เครื่อง Enigma รหัสลับของฝ่าย นาซี  ถูกใช้ในภาระกิจของเรือดำน้ำ U-boat ซึ่งทำให้เรือดำน้ำ U-boat จมเรือฝ่ายพันธมิตรได้มากมาย จึงทำให้ฝ่ายพันธมิตรเร่งทำการแกะรหัสของเครื่อง Enigma นี้ให้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยน เพราะ นาย Arthur Scherbius ระบุว่าถ้านำคน 1000 คนมาทำการสุ่มถอดรหัส โดยใช้อัตรา 4 ทางเลือก ต่อ 1นาที ต้องใช้เวลาถึง 900 ล้านปี ในการจะถอดรหัสได้ เป็นการเพิ่มความั่นใจแก่กองทัพนาซีเยอรมันเป็นอย่างมาก

 

 

– ยุทธการถล่มนาซี…

คือการบุกเบอร์ลินเมืองหลวงของเยอรมัน ระหว่างที่โซเวียตเริ่มถอดรหัสอีนิคม่าได้เป็นผลสำเร็จ กองทัพโซเวียตบุกเยอรมันทางทิศตะวันออกทันที โดยสตาลินมีเป้าหมายที่จะยึดทำการยึดเมืองหลวงของเยอรมัน คือกรุงเบอร์ลิน และที่สำคัญที่สุดคือ จะต้องทำการจับกุมอดอฟ ฮิตเลอร์ ให้ได้

ยุทธศาสตร์การรบที่ผ่านมาของโซเวียตคือ”โล่ห์มนุษย์ ” โซเวียตได้เปรียบเรื่องของ”กำลังทหารและสภาพพื้นที่” มันเป็นที่ที่คุ้นชินและเป็นที่ที่อากาศหนาวเหน็บ โซเวียตทนได้แต่ทหารเยอรมันล่ะ? ไม่แน่!  โซเวียตได้คาดการณ์ล่วงหน้าแล้วว่า สนามเพลาะแนวแรกจะต้องถูกปืนใหญ่เยอรมันยิงถล่มจนหมดสิ้นก็ยอมที่จะสูญกำลังพลส่วนนั้นเพื่อรักษาดินแดน

ทางฝ่ายเยอรมัน ตลอดมาเยอรมันมันมีข้อได้เปรียบคืออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยกว่า การข่าวที่ทันสมัย การสื่อสารที่ดีแต่ เสียเปรียบเรื่องสภาพพื้นที่และภูมิอากาศ และกำลังพลบางส่วนถูกแบ่งไปรบกับทางด้านฝรั่งเศษและอเมริกาในอิกฟากหนึ่ง กองทัพเยอรมันจึงแบ่งเป็น 2 ทัพใหญ่เพื่อสู้ศัตรูจาก 2 ฟากฝั่ง ทั้งเยอรมันตะวันตกและเยอรมันตะวันออก

16 ธันวาคม ค.ศ. 1944 กองทัพเยอรมันพยายามอย่างเข้าตาจน การพ่ายแพ้ทีสตาร์ลินการ์ดทำให้ทหารเสียความเชื่อมั่นอย่างยิ่ง เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจกลับขึ้นมา ฮิตเลอร์การเรียกระดมกองหนุนเยอรมัน และตีโต้ตอบครั้งใหญ่ที่ป่าอาร์เดนเนส เพื่อที่จะแบ่งแยกฝ่ายพันธมิตรตะวันตกและเพื่อยึดครองเมืองท่าเสบียงที่สำคัญที่อันท์เวิร์พแต่กลับไม่เป็นผลสำเร็จในแนวรบด้านตะวันออก กองทัพโซเวียตบุกโจมตีถึงฮังการี จนทำให้กองทัพเยอรมันจำเป็นต้องทิ้งกรีซและยูโกสลาเวีย ขณะที่ในอิตาลี กองทัพสัมพันธมิตรยังคงไม่สามารถโจมตีผ่านแนวป้องกันของเยอรมันได้

เมษายน ค.ศ. 1945 ขณะที่ปลายเดือนเดียวกัน กองทัพโซเวียตเข้าถล่มกรุงเบอร์ลิน กองทัพฝ่ายพันธมิตรตะวันตกและกองทัพโซเวียตได้มาบรรจบกันที่แม่น้ำเอลเบอ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 1945 อาคารรัฐสภาไรช์สทักถูกยึดครอง แสดงถึงความพ่ายแพ้ทางการทหารของนาซีเยอรมนี โซเวียตสามารถรุกเข้าถึงกรุงเวียนนา ในที่สุดกองทัพสัมพันธมิตรตะวันตก ก็สามารถตีฝ่าแนวป้องกันของเยอรมันได้ในอิตาลี มุสโสลินีถูกสังหารโดยขบวนการกู้ชาติอิตาลี เมื่อวันที่ 28 เมษายน และอีกสองวันให้หลัง “ฮิตเลอร์ก็ยิงตัวตาย”

 

ทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิก กองทัพสหรัฐอเมริกาได้รุกเข้าสู่ฟิลิปปินส์ หลังจากได้ชัยในเกาะเลเตเมื่อปลายปี ค.ศ. 1944 จากนั้นก็ยกพลขึ้นบกที่ลูซอน ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1945 และสามารถยึดกรุงมะนิลาคืนได้ในเดือนมีนาคมการรบบนเกาะลูซอน เกาะมินดาเนา และเกาะอื่น ๆ ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งสิ้นสุดสงคราม ในเดือนพฤษภาคม กองกำลังออสเตรเลียยกพลขึ้นบกบนเกาะบอร์เนียว และสามารถยึดครองบ่อน้ำมันที่นั่นได้ กองกำลังอังกฤษ อเมิรกัน และจีนก็สามารถเอาชนะกองทัพญี่ปุ่นในพม่าตอนเหนือเมื่อเดือนพฤษภาคม และกองทัพอังกฤษรุดหน้าไปถึงย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม กองทัพอเมริกันยังคงมุ่งหน้าเข้าสู่ญี่ปุ่น สามารถยึดเกาะอิโวะจิมะได้ในเดือนมีนาคม และยึดเกาะโอะกินะวะได้ในเดือนมิถุนายน ในขณะที่เครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาได้ทำลายเมืองต่าง ๆ ของญี่ปุ่น และเรือดำน้ำอเมริกันก็เข้าปิดล้อมเกาะญี่ปุ่น ตัดขาดการนำเข้าจากภายนอก วันที่ 11 กรกฎาคม บรรดาผู้นำฝ่ายสัมพันธมิตรประชุมที่พอทสดัม ประเทศเยอรมนี ได้ข้อสรุปว่า ที่ประชุมให้การรับรองเกี่ยวกับข้อตกลงต่าง ๆ กับเยอรมนีก่อนหน้านี้ และย้ำถึงความจำเป็นของญี่ปุ่นที่จะต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำกล่าวที่ว่า “อีกทางเลือกหนึ่งของญี่ปุ่นก็คือหายนะเหลือแสน”

เมื่อญี่ปุ่นได้ปฏิเสธข้อเสนอที่พอทสดัม สหรัฐอเมริกาจึงตัดสินใจทิ้งระเบิดปรมาณูสองลูกบนแผ่นดินญี่ปุ่นที่ฮิโระชิมะและนะงะซะกิ ต้นเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1945 ระหว่างการทิ้งระเบิดปรมาณูทั้งสองลูก สหภาพโซเวียตก็ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น และโจมตีแมนจูเรียของญี่ปุ่น ตามข้อตกลงยัลตา

สงครามในยุโรปยุติลงหลังกองทัพแดงยึดกรุงเบอร์ลินได้ และการยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไขของเยอรมนีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 1945 แม้จะถูกโดดเดี่ยวและตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบอย่างยิ่ง ญี่ปุ่นยังปฏิเสธที่จะยอมจำนน กระทั่งมีการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์สองลูกถล่มญี่ปุ่น และการบุกครองแมนจูเรีย จึงได้นำไปสู่การยอมจำนนอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1945