mai Forum 2015 โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ร่วมกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) จัดงาน “mai FORUM 2015:มหกรรมรวมพลังคน mai2” ขึ้นเป็นครั้งที่ 2
ปกติเราจะรู้จักแต่ตลาดหลักทรัพย์ ไม่ค่อยรู้จักตลาดเอ็มเอไอกันสักเท่าไหร่เลยนำมาแนะนำในนี้ซะเลย
ลงทุนกับตลาด เอ็ม เอ ไอ (mai) …. ^^
– SET เขียนตัวใหญ่ mai เขียนตัวเล็กนะฮะ แฮ่!!
– SET เป็นแหล่งระดมทุนระยะยาวของบริษัทที่มีขนาดใหญ่ มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 300 ล้านบาทขึ้นไป
– mai เป็นแหล่งระดมทุนของธุรกิจที่มีศักยภาพขนาดกลางและเล็ก ซึ่งมีทุนชำระแล้วหลัง IPO ตั้งแต่ 20 ล้านขึ้นไป เน้นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง และมีแนวโน้มการเติบโตดีในอนาคต เน้นทำการตลาดเชิงรุกไม่มีการจำกัดทุนจดทะเบียนชำระแล้วขั้นสูง กิจการขยายตัวมากๆก็ดันเข้าSETได้
– mai กำหนดทุนชำระแล้วและส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีจำนวนน้อยกว่า
การกำหนดระยะเวลาในการประกอบธุรกิจต่อเนื่องที่สั้นกว่า
การกระจายหุ้นให้มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยที่น้อยกว่า
การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ต่ำกว่า
– หุ้น mai ยังไม่ได้ถูกจัดกลุ่มแบ่งตามประเภทธุรกิจ นักลงทุนบางส่วนจึงอาจตัดสินใจลงทุนโดยไม่ได้พิจารณาเทียบเคียงกับระดับความ ถูกแพงของกิจการประเภทธุรกิจเดียวกัน
– หุ้น mai ส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและมีจำนวนหุ้นหมุนเวียนไม่มากนัก หากเกิดกระแสนักลงทุนฟีเว่อร์เข้ามาลงทุนในกิจการเดียวกัน ราคาก็จะปรับตัวสูงขึ้นได้ไม่ยาก
– ทำไมบริษัทต้องเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ทั้งที่บริษัทสามารถกู้ยืมเงิน จากสถาบันการเงินได้อยู่แล้ว???
นั่นดิ !!!
ก็เพื่อเป็นแหล่งเงินทุน,เพิ่มความยืดหยุ่น ,เปิดโอกาสให้บริษัท ระดมทุนจากประชาชนได้โดยตรง และบริษัทจะจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นนั้น ในรูปของเงินปันผล ,ในการบริหารต้นทุนทางการเงินให้บริษัทมากขึ้น และรองรับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต คือราคาดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายอาจมากกว่าการจ่ายปันผลแหละ
บริษัทสามารถ ออกตราสารทางการเงินประเภทต่างๆ ตามสภาวะตลาดทุนในช่วงเวลาที่ต้องการใช้เงินนั้น เช่น หุ้นกู้ ใบสำคัญ แสดงสิทธิ
– กระแสฟรุ้งฟริ้งของเงินลงทุนจากนักลงทุนทั่วไปในประเทศยังคงไหลๆๆเข้าตลาด mai อย่างต่อเนื่อง จากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพียงไม่กี่พันล้านบาท และแตะระดับหมื่นล้านบาทในปัจจุบัน ทำให้ราคาหุ้นปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง