อาชีพที่ยิ่งกว่าดาราดังในเกาหลี

อาชีพที่ได้รับการยอมรับ เป็นที่รู้จักไม่ต่างจาก Super Star …

อาชีพที่ใครๆก็ใฝ่ฝัน รายได้ดี และมีชื่อเสียง

Showhost (โชว์โฮส) คืออะไร….

นี่คืออีกหนึ่งอาชีพ ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยก็ได้นะคะ นั่นก็คือ Showhost (โชว์โฮส)ค่ะ หรือ พิธีกรรายการขายสินค้า Showhost เป็นผู้ที่จัดรายการผ่านทางทีวีรูปแบบหนึ่ง มีลักษณะที่คล้ายกับการเป็นพิธีกร ผู้ประกาศ VJ MC นั่นล่ะค่ะ แต่ต้องอาศัยทักษะ ไหวพริบและประสบการณ์ ที่มากกว่า Showhost จะแนะนำและให้ข้อมูลสินค้าผ่านทางช่องรายการทีวี ทำหน้าที่เป็น เหมือนเซลล์ขายของในรายการขายสินค้าในช่องรายการทีวีโฮมช๊อปปิ้ง ตัวอย่างเช่น TVDirect , Oshopping , True Serect , Shop Channel และ High Shopping

“โอ้วววว พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก”

“มันดีเยี่ยมเลยนะซาร่า”

“แต่เดี๋ยวก่อน! ถ้าคุณโทรมาภายใน 10 นาทีนี้ จะได้ฟรีทันที…”

“โทรเล้ยยยยย”

“ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ประสบปัญหาแบบนี้…”

วลี พวกนี้คุ้นหูกันไหมคะ? ^^ นั่นล่ะ ใช่เลย!!

หลายคนคงคิดว่าการทำโชว์โฮสต์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก” แค่พูดได้ ขายของเป็น” เหมือน PC ตามห้างก็เรียกว่าโชว์โฮสต์ได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่อยากจะบอกคือก็ไม่ง่ายขนาดนั้นซะทีเดียวนะจ๊ะ เพราะการทำโชว์แต่ละโชว์ต้องอาศัยไหวพริบและสมาธิสูงมาก

⁃ ต้องจำลำดับ Sequence ของรายการทั้งหมดได้ ว่าแต่ละ step นั้นจะต้องทำอะไรบ้างโดยที่ในช่วงทั้งหมดจะถูกควบคุมโดยโปรดิวเซอร์รายการ ที่จะเป็นคนวางแผนการนำเสนอสินค้าให้

⁃ ต้องรู้วิธีการหยิบจับสินค้า การใช้ Handling ใช้มือว่าจะต้องลูบคลำ หยิบจับอย่างไร ออกมาในหน้าจอโทรทัศน์ถึงจะดูว่าใช้งานง่าย น่าซื้อ หรือดูแพงมีมูลค่า อันนี้ก็จะขึ้นอยู่กับประเภทแต่ละสินค้าด้วย

⁃ ต้องดูไลน์กล้องเป็น ดูมอนิเตอร์เป็น การใช้เทคนิคตรงนี้เป็นส่วนสำคัญมาก และต้องจับให้ได้ไม่เช่นนั้นตาจะหลุด หรือตัดภาพบางช๊อทออกมาจะเห็นภาพเบื้องหลังการถ่ายทำหรือได้ภาพที่ไม่สวย

⁃ ต้องมีสมาธิในการฟัง การทำโชว์หนึ่งโชว์จะมีโชว์โฮสต์ 2 คนในขณะที่มือทำ ตามองกล้องแล้ว หูต้องฟังเพื่อนด้วยว่าเพื่อนพูดอะไรไปบ้างแล้ว ต้องมีสมาธิในการรับส่งกันระหว่างจัดรายการ

⁃ ต้องฟังที่โปรดิวเซอร์สั่งลงมาจากห้องควบคุมด้วย หูเราจะมีใส่หูฟังไว้ขณะที่ทำโชว์ และในขณะนั้นเองถ้ามีสิ่งที่โปรดิวเซอร์อยากจะสั่งให้พูด ให้ทำอะไร หรือเวลาหมดเบรคเราก็ต้องฟังให้ทันและทำให้ทันด้วย

⁃ โชว์โฮสต์จำเป็นจะต้องมีพื้นฐานหน้าตาดีและดูน่าเชื่อถือ มีบุคลิกภาพที่ดี ไม่ควรเด็กน้อยจนเกินไปนะคะ เพราะจะเสียความน่าเชื่อถือในการขายสินค้า

มาถึงตรงนี้…ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไม๊ล่ะคะ ที่จะเป็น Showhost!!

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมอาชีพในประเทศเกาหลีใต้ถึงมีแต่คนใฝ่ฝันอยากเป็น และทำไมถึงรายได้ดีมีชื่อเสียง ระดับเทียบเท่ากับดาราซุปเปอร์สตาร์ดังดังเลยทีเดียว แน่นอนว่านอกจากจะต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวแล้ว Specialist ในประเทศเกาหลีธุรกิจโฮมช๊อปปิ้งเป็นธุรกิจที่ทำรายได้มหาศาลมาก เพราะเนื่องจากวิถีชีวิตของเขาเมื่อสามีภรรยาแต่งงานกัน ภรรยาชาวเกาหลีมักจะไม่ได้ทำงานและผันตัวมาเป็นแม่บ้านโดยส่วนใหญ่ ทำให้การซื้อสินค้าผ่านทาง TV Shopping ได้รับความนิยมสูงมากๆ

ใน 1 โชว์ ขายเพียง 1 สินค้าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทำรายได้หลัก 1,000,000 บาทเลยทีเดียว

นี่เป็นเหตุผล ว่าทำไมเราถึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมธุรกิจนี้เข้ามาสู่เมืองไทย ด้วยการแข่งขันที่สูงมากและ80% บ.เอกชนของเรามีการร่วมทุนกับประเทศเกาหลีใต้ อย่างเช่น CJ , Hundai ใช้รูปแบบการขายสินค้าและการทำโชว์ไม่ต่างจากประเทศเกาหลีใต้ พูดง่ายง่ายก็คือเห็นเขาประสบความสำเร็จแล้วเราก็ก๊อปปี้รูปแบบเค้ามานั่นแหละจ้า

จะเป็น Showhost ได้ ต้องสวมหมวกหลายใบ …

ต้องเป็นได้ทั้ง พิธีกร ผู้ประกาศ นักพากย์และเอนเตอร์เทนเนอร์ เซลล์ นักขาย ผู้กำกับเวที Co-Producer หรือกระทั่งนักจิตวิทยา ?

Showhost ต้องเป็น พิธีกร

ดำเนินรายการตั้งแต่ต้นจนจบ และเป็นประการด่านสุดท้ายเพียงคนเดียวที่จะได้มีโอกาสสื่อสารออกไปให้ถึงมือท่านผู้ชม ตลอดทั้งรายการผู้ชมจะเห็น Showhost มากถึง 30-40% นอกจากตัวสินค้า เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำโชว์ และยังต้องอาศัยทักษะการสื่อสารของพิธีกรในการใช้คำพูดที่สละสลวยแต่เข้าใจง่าย เข้าถึงได้ โดนใจ ปิดการขายให้ได้ ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ซึ่งในแต่รายการก็จะใช้ทักษะการนำเสนอนั้นต่างกันไปตามประเภทสินค้าที่จะขาย เช่น ถ้าเป็นการขายเครื่องครัว ลักษณะการพูดของ Showhost จะเป็นในรูปแบบชิลล์ๆแนวแม่บ้าน หยิบจับอะไรดูสะอาดสะอ้าน บอกเล่าให้ทำตามได้ง่ายๆ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ผู้ชมสามารถทำเองได้ที่บ้าน

Showhost ต้องเป็น ผู้ประกาศ

ในกรณีที่เป็นสินค้าที่ต้องการความน่าเชื่อถือ มีใครหยิบยกเหตุการณ์ตัวอย่างขึ้นมานำเสนอ เป็นในลักษณะของการเล่าข่าว เพื่อให้ผู้ชมเกิดความตระหนักใน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เช่นขายประกัน ขายกล้องวงจรปิด ขายสินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าใช้จำเพาะประเภท สินค้าเทคโนโลยี

Showhost ต้องเป็น นักพากย์และเอนเตอร์เทนเนอร์

ในรายการขายสินค้านั้น แตกต่างจากรายการทั่วไปโดยสิ้นเชิงตรงที่ บางรายการไม่ต้องการตามติดตามรับชมจนจบรายการ บางรายการต้องการเพียงการติดตามซึ่งก็วัดได้จากอันดับเรตติ้งรายการ แต่รายการขายสินค้าต้องการทั้งการติดตามและ”ผลลัพท์”ที่สามารถชี้วัดได้จากยอดขายสินค้า Showhost จึงต้องพากย์เสียงพูดประกอบ VTR และต้องเป็นนักเอนเตอร์เทนเนอร์ที่ดี สร้างสรรค์ โชว์ให้ดูสนุกตลอดทั้งรายการ เพื่อไม่ให้โชว์ดูน่าเบื่อจนคนไม่ซื้อสินค้าShowhost ต้องเป็นเซลล์ นักขาย และปิดการขายได้ภายในคนๆเดียว

เพราะเป้าหมายสูงสุดของการทำโชว์ของรายการขายสินค้าคือ การปิดการขาย ตลอดทั้งรายการShowhost ต้องใช้ ไหวพริบปฏิภาณทั้งหมด อธิบายถึงรายละเอียดสินค้า ว่าใช้ทำอะไรมีประโยชน์อย่างไรบ้าง เหมาะสำหรับใคร ยิ่งประเด็นให้ตรงจุดโดนใจ คำพูดต่างๆนานาถูกสรรหามาเพื่อโน้มน้าวใจให้ผู้ซื้อคล้อยตาม บางจังหวะใช้มือเข้ามาช่วยประกอบอวัจนะภาษา ให้การสื่อสารสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ทักษะใช้การเปรียบเทียบถูกงัดมาใช้เพื่อให้ผู้ชมเกิดการชั่งน้ำหนักความคุ้มค่า Showhost ต้องพิจารณาสิ่งที่ควรพูดและไม่ควรพูดออกไป และเน้นย้ำถึงประโยชน์ที่เค้าจะได้รับถ้าสั่งซื้อสินค้าของเรา โดย ทั้งหมดนี้เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์เท่านั้นไม่สามารถสอนกันได้ ในประเทศเกาหลีจึงมีคำนิยามถึง Showhost ว่า…

“ใช้คนขายเก่งเพียงคนเดียว สร้างกำไรได้มหาศาล”

Showhost ต้องเป็น ผู้กำกับเวที

นอกจากการออกแบบโชว์ คิดรูปแบบโชว์แล้ว การสื่อสารกันและทำความเข้าใจในระหว่างการทำโชว์เป็นสิ่งสำคัญมาก Showhost ต้องดู line กล้องเป็น เพราะในรายการขายสินค้านั้นจะใช้กล้องมากกว่ารายการข่าว หรือรายการทั่วๆไป จะมีทั้งกล้องกว้าง กล้องแคบใช้จับรายละเอียดสินค้า กล้องท๊อปจับภาพจากด้านบน กล้องจับเฉพาะพิธีกร โดยหน้าจอจะมีจอมอนิเตอร์ สวิตช์ภาพ ก่อนจะนำเสนอและภาพที่กำลังอออนแอร์อยู่ เราต้องดูภาพเหล่านี้ให้เป็น นี้ในระหว่างการถ่ายทำจะต้องดูด้วยว่ากล้องจับภาพทันหรือไม่บางทีกล้องจะมีการซูมหรือเลื่อนซ้ายขวา เราต้องอาศัยประสาทสัมผัสในการสลับด้านเอง เพราะเมื่อเราหยิบซ้าย คนดูจะมองเป็นขวา รายละเอียดพรุ่งนี้เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ Showhost จะต้องฝึกฝน และพยายามทำให้ชินกับหลายหลายเหตุการณ์ให้ได้

Showhost ต้องเป็น Co-Producer

ต้องมีความคิดสร้างสรรค์และช่วยดีไซน์โชว์ให้ออกมาในแบบฉบับของตัวเอง พูดง่ายง่ายคือเป็นตัวของตัวเองนั่นเอง เบื้องต้นโปรดิวเซอร์รายการจะเป็นคนคิดรูปแบบของโชว์ทั้งหมด แต่ก่อนจะมีการถ่ายทำจะมีการประชุมร่วมกัน Showhost ต้องทราบว่าคำพูดอะไรใช้ออกอากาศไม่ได้ มีโอกาสโดน คอ. เล่นงานว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง นอกจากระมัดระวังคำพูดของตัวเองแล้วยังต้องเป็นผู้ที่นำเสนอว่าอยากจะพูดประเด็นไหนบ้างด้วยเหตุผลอะไร และเหตุผลนี้มีความสำคัญพอหรือไม่ที่จะหยิบยกมาพูด เพราะว่าในหนึ่งรายการใช้เวลาเพียง 24 นาที ในแต่ละนาทีมีค่ามาก ประเด็นที่จะพูดถึงต้องสำคัญจริงๆ และต้องจัดลำดับความสำคัญว่าจะนำเสนอลำดับอะไรก่อนหลัง จังหวะไหนมีการทดลองสินค้าให้ดู จังหวะไหนเป็นโปรโมชั่นขายสินค้า แต่สิ่งสำคัญอย่างนึงที่ Showhost จะต้องมีในหัวตลอดเวลาคือ ต้องเข้าใจทั้งหมดว่าแต่ละช่วงที่และนำเสนอจะต้องสื่ออะไรให้ท่านผู้ชมบ้าง ซึ่งภาพ เสียง เหตุผลจะต้องตรงกันเป็นไปในมูดแอนโทนเดียวกัน

Show-host ต้องเป็น นักจิตวิทยา

เป็นการบ้านของอาชีพ Showhost ในการพิจารณาผู้ซื้อ Showhost ต้องรู้ว่า กลุ่มผู้ซื้อของเรามีช่วงอายุตั้งแต่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ เค้า มีพฤติกรรมการซื้อแบบไหน ต้องการอะไร เราจะได้ปิดการขายถูกวิธี ยังไม่พอ Showhost ยังต้องรู้อีกว่าในกี่นาทีแรกที่ผู้ชมจะเริ่มโทรเข้ามาสั่งซื้อสินค้า และคนโทรเข้ามาซื้อมากที่สุดช่วงเวลาไหนในขณะนั้นกำลังพูดถึงอะไรอยู่ คำพูดลักษณะไหนที่สามารถโน้มน้าวใจให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ คำพูดไหนพูดไปแล้วไม่เป็นผล พวกนี้ต้องไปวิเคราะห์จากกราฟ เพื่อนำมาใช้ในการดีไซน์โชว์ครั้งต่อๆไปด้วย

อาชีพที่ต้องกดดันตัวเอง…

ทำไมถึงต้องใช้ว่าเป็นอาชีพที่ต้องกดดันตัวเองเราอาจจะไม่ได้ถือยอดขายเหมือนเซลล์จะต้องปิดยอดขายเพื่อให้ได้ค่าคอมมิชชั่นก็ตาม แต่ละช่องรายการทีวีโฮมช้อปปิ้งขายสินค้ามีเงื่อนไขการจ้างโชว์โฮสต์ที่ไม่เหมือนกันนะคะ บางช่องให้เงินเดือนสูงเป็นรายเดือนไปเลยก็มี บางช่องให้เงินเดือนต่ำหน่อยแต่ได้ค่าคอมมิชชั่นเพิ่มจากการขายสินค้าได้ ส่วนบางช่องจ้างเป็นฟรีแลนซ์ แล้วก็ให้เงินค่าจ้างเป็นการถ่ายสินค้าต่อเทปไป เรทก็อยู่ที่ตั้งแต่เทปละ 3,000-8,000 บาทต่อคิว

ถึงแม้ว่าจะเป็นพนักงานประจำแต่เหมือนด้วย ภาระหน้าที่ที่ไม่ว่ายังไงก็ตามต้องขายสินค้าให้ได้ ก็มีความกดดันในตัวเองระดับหนึ่งแล้วยิ่งถ้าเป็นฟรีแลนซ์ด้วย ยิ่งต้องกดดันใหญ่เลยเพราะจำนวนตัวถ่ายขึ้นอยู่กับความสามารถในการขายสินค้าของแต่ละคน ถ้าขายเก่งขายดีก็จะได้จำนวนตัวถ่ายสินค้าเยอะก็ได้ตังเยอะตามไปด้วย

โชว์โฮสต์ต้องขายได้ทุกอย่าง… ไม่เลือกสินค้า

Showhost High Shopping

การมาเป็นโชว์โฮสต์ที่นี่ เป้ยอมรับว่ากดดันมากเพราะว่าเราไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน เคยเป็นผู้ประกาศข่าว ประจำสำนักข่าวมาก่อน เคยเป็นพิธีกรงานอีเวนท์มาก่อน จัดรายการวาไรตี้มาก่อน ทอร์คขายสินค้าก็เคยนะคะ เลยคิดว่ามันน่าจะไม่ยากเท่าไหร่นะ แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว

โอ๋ววว ยากมากก!! ใช้เวลาสักระยะใหญ่เลยจ้ากว่าจะปรับตัวได้ หลักๆคืออาศัยประสบการณ์นะคะ ถ้าเคยลองทำโชว์สัก 3-4 โชว์พอจับทิศจับทางได้แล้วทุกอย่างก็จะง่ายเองค่า

นี่ล่ะ วิถีโชว์โฮสต์ ^^ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่า