สวัสดีค่าา ก่อนอื่นถามก่อนเลย ใครหา Merlion เจอ เราให้นายเป็นหัวหน้าแกงค์เราไปเลย… 555+

ทริปนี้จริงๆแล้ว ไม่ได้เตรียมตัวเลยนะคะ เรียกว่าตามน้องๆไปอย่างเดียว ทุกอย่างน้องจองหมด เราเดินทางไปช่วง 20-23 กรกฎาคม 61 ที่ผ่านมาค่ะ

แลนดิ้งมาเชคอินสิงค์บุรี อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต เดี๋ยวๆ

สิงคโปร์อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต T3 น้องๆลงกัน Teminal 4 คือจะบอกว่าสนามบินเค้าฝ้างฝางมาก เราไปคนละไฟท์กับน้องๆเวลาบินห่างกัน 15 นาที น้องไปอยู่ T4 เดินหากันไม่ได้นะจ๊ะต้องนั่งรถบัสไปแต่ละตึกแยกกันหมด แต่สนามบินเค้าเพอร์เฟ็คมากมีที่นั่งทำงาน นั่งพักผ่อน ไวไฟทุกอย่างครบเลย ดูดี ใหม่ สะอาดสะอ้าน…

จากนั้นก็เลือกนั่งแท็กซี่ไปที่พักเพราะคิดว่าไปกัน 4 คนถ้าไปแท็กซี่คงจะคุ้มกว่า..

และแล้วก็ทำให้เราเข้าใจแจ่มๆเลยคือ

ถ้าใครเคยคิดว่า Taxi เมืองไทยโคตรแพง เจอแบบนี้เข้าไป Taxi เมืองไทยไม่แพงหร๊อกจ้าาาา นี่นั่งไปกะป๋อยเดียะ 38 กว่าดอลล่า 950 กว่าบาท เริ่ชๆ คนอย่างเราๆ 555+

ชอบตรงความมีระเบียบวินัยของแท็กซี่มาก

⁃ แท็กซี่จอดรับ ผู้โดยสารนานไม่ได้นะฮะถ้าจอดนาน โดนปรับ 80 ดอลล่าสิงคโปร์ และหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยเพราะมีกล้องเยอะมาก จอดนานไม่ได้เลยไม่งั้นต้องเข้าที่จอดที่จอดจะโดนอีก 20 ดอลล่าร์สิงคโปร์/ครึ่งชม. ภาระนี้ตกเป็นความรับผิดชอบของผู้โดยสารนะจ๊ะ

⁃ Grab เป็นของสิงคโปร์ เองเลยรายได้ทั้งหมดเข้ารัฐบาล

⁃ Easy pass ราคาเริ่มต้น 10 ดอลล่าร์สิงคโปร์ แนะนำว่าไม่ต้องไปซื้อที่สนามบินเพราะแพงเราโดนมาแล้วสี่ใบ ซื้อข้างนอก เริ่มต้นที่ 5 ดอลล่าร์สิงคโปร์แต่สามารถแลกคืนได้ที่สนามบิน การเติมบัตรอีซี่พาร์ทเติมครั้งละ 10 เหรียญดอลลาร์ค่า

⁃ นั่งแท็กซี่ไปมองออกไปนอกหน้าต่างทำให้รู้สึกว่าประเทศนี้ “บ้านนอกเนอะไม่มีมอไซด์เลย สักคัน” วุ สู้บ้านเราไม่ได้เลย แต่เท่าที่สืบทราบมาคือคุณจะขับขี่รถมอเตอร์ไซต์ได้คือต้องสอบใบขับขี่เฉพาะและเสียค่าใช้จ่ายเยอะหลัก 10,000 บาทเลยทีเดียว รถยนต์ที่นี่ก็ใช้กฏคล้ายประเทศญี่ปุ่นคือมีอายุการใช้งานที่ 15 ปีหลังจากนั้นต้องขายซากทิ้งจ้า

ไปตามหาแหล่ง Shopping กัน !

จริงๆได้ไปอ่านมาหลายกระทู้เหมือนกันน้าเรื่องการ Shopping ในสิงคโปร์หลายหลายคนบอกว่า ให้ตายยังไงก็ไม่ได้ของถูกอย่างแน่นอนที่นั่นค่าครองชีพสูง ไม่มีอะไรถูกฝ่าในเมืองไทย ซื้อได้แค่อย่างเดียวคือ charle & keith นะฮะ จะบอกว่าอ่านกระทู้นี้แล้วเราขอเป็นแกะดำในนั้นข่ะ

ใครบอกสิงคโปร์ลดทั้งเกาะยังไง เมืองไทยก็ถูกกว่า!!

ไม่จิ๊งงง ไม่จริง นี่เถียงยันเอ็นเลยข่ะ…

เจอหลายแบรนมากที่ถูกกว่าในเมืองไทย ค่าเงินของเค้าตอนแรกไป 24.38 บาทไทย เท่ากับ 1 ดอลล่าสิงคโปร์นะ

พูดเยอะเจ็บคอ ดูภาพเอาแล้วกัน!

สรุปให้ว่าอะไรที่น่าชอบบ้างแล้วถูกกว่าไทยบ้าง?

แบรนด์ Charles & Keith ค่ะ เมืองไทยขาย 2 ถึง 4000 บาท กระเป๋ารองเท้านะที่โน่นเหลือ 1000 ต้นต้น

Guess เมืองไทยขาย 3-6000 บาท กระเป๋า รองเท้านะที่โน่นเหลือ 1000 นิดๆ กระเป๋าสตางค์หลักร้อยไม่ถึง 1000

Super Dry อันนี้ถูกมากถูกสุดสุดชอบมาก ซุปเปอร์ดาย เมืองไทยขาย 3 ถึง 8000 บาท กระเป๋า พันกว่า รองเท้านะที่โน่นเหลือ 1000 กว่าๆเสื้อคลุมหรือเสื้อกันหนาวราคาแค่ 99 ดอลล่าร์สิงคโปร์ 2400 บาทได้ จะบอกว่าเคยไปซื้อที่เยอรมันยังไม่ถูกเท่านี้เลย

รองเท้า sketcher อันนี้ถูกสุดสุดเป็นรองเท้าสุขภาพแนะนำให้ใคร พาคุณพ่อคุณแม่ไปไปสอยเลยจ้า ราคาที่เมืองไทย4-5 พัน พี่โน่นเหลือ 1000 กว่าถึง 2000 เราสอยมา 6 คู่ใสๆวัยรุ่นชอบ รวมจ่ายไปไม่ถึง 8000 เอง ดีเริ่สประเสริฐมาก

ประเทศสิงคโปร์แม้ว่าจะไม่ใช่ประเทศที่มีวัฒนธรรมที่เก่าแก่มากถ้าสังเกตว่าไปลงที่นั่นจะเจอแต่คนจีนคนอินเดียเป็นส่วนใหญ่ แต่ความน่ารักของเค้าคือเค้าให้ความสำคัญกับวันชาติสิงคโปร์มาก และเค้าฮิตให้ใส่อะไรๆแบบนี้!ด้วย เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงความรักชาติ…

ส่วนเรื่องสถานที่ช๊อปเอาจริงๆถ้าจะซื้อของฝากเลยนะ แนะนำพวกช็อกโกแลตราคาไม่แพงแล้วเป็นช็อกโกแลตแบรนดีด้วย

***ซื้อของฝากได้ในราคาถูกที่สุดคือ ที่ Expo สถานีก่อนถึงสนามบิน มีข้อจำกัดนิดหนึ่งคือต้องใช้เงินสดเท่านั้น บัตรเครดิตไม่รับรูด

ในเอ็กซ์โปของช้อปไม่มีอะไรมากมาย แนะนำไปซื้อช็อกโกแลตพอ

*** ซื้อน้ำหอม จิวเวอรี่ สิงคโปร์ที่ถูกที่สุดแนะนำ มุดตาฟา

อันนี้ถูกจริงจัง และไม่ต้องกลัวของปลอมด้วยเพราะในสิงคโปร์กฎหมายเขาแรงมากขโมยของมีสิทธิ์ถูกตัดมือเลย คนขายของปลอมปรับ 20 เท่า

กฏหมายที่นี่แรงมาก นำสารเสพติดเข้ามาโทษประหารชีวิตเลยนะ ซึ่งในเครื่องบินจะประกาศอยู่แล้วทุกสายการบิน นอกจากนี้การนำอุปกรณ์มีคม มีด อาวุธปืน หรือระเบิดเข้าประเทศเค้า ถ้าตรวจเจอโทษสูงสุดคือประหารชีวิตเช่นกัน

ขายทองกันแม่ม เหมือนขายเคสโทรศัพท์

98% คนซื้อคือ ผช.ล้วนนะจ้ะไปถึงป๊ะแรก น่ากลัวสลัด เหมือนอยู่ในชนเผ่าอะไรสักอย่าง ทุกคนมอง-“- เอิ่บ คงเพราะชั้ลสวยที่สุดในย่านนี้…

ต่อไปจะพาไปชมย่านร้านนั่งชิลล์ซึ่งมีเยอะเหมือนกันนะคนทีนี้ถ้าสังเกตุดีดีส่วนใหญ่จะชอบคราฟเบียร์ มีร้านเยอะเหมือนกัน แต่ย่านที่ไปนี่เค้าเรียกว่า คล๊ากคีย์ ทีแรกน้องน้องที่ไปด้วยอ่านว่า คล๊ากค .. ว … ย เรียกว่าเบรกกันแทบไม่ทันจ้าพี่จ๋า 555+ ไปลงสถานีนี้แล้วก็เดินตรงไปได้เลยจะเป็นบรรยากาศริมคลองมีเรือแล้วก็เสิร์ฟเบียร์วงเล็บเป็นเบียร์ช้างของไทยนี่แหละ-“- ตอนเบียร์มาเสิร์ฟรู้สึกเสียชาติเกิดสุดสุด แม่ม!!555

แล้วก็แน่นอนอีกหนึ่งที่ที่ต้องไปเยือนคือยูนิเวอร์แซลสิงคโปร์ เดินตีนแตกมากเมื่อยตุ้มระหว่างนั้นเลยปล่อยน้องน้องไปเล่นเครื่องเล่นไปส่วนเราเข้าคาสิโนจ้า

จริงๆสำหรับเราแล้วสิงคโปร์มันไม่มีสถานที่ที่ท่องเที่ยวที่หวือหวา ว๊าววมากอะนะคะ ไปสามวันก็เก็บหมดแล้วเพราะว่าเกาะเค้าเล็กนิดเดียวก็มีถนน Orchard Road ไป Shopping ไชน่าทาวน์ซื้อของฝากก็ไม่มีอะไรมาก มุตตาฟา ยูนิเวอร์แซลสิงคโปร์ ชายหาด Merlion ตึกที่มีเรืออยู่ด้านบนมารีน่าเบย์แซนด์ แค่นั้นไชน่าทาวน์เค้าก็ไม่ค่อยมีอะไรเลย 55 มีสตรีทฟู๊ดซึ่งเหมือนกับสตรีทฟู๊ดที่สนามบิน ราคาเท่ากันเป๊ะคือเค้าบอกว่าค่าของชีพเรื่องอาหารที่นี่เค้าจะใกล้เคียงกันมากราคาต่ำต่ำจะอยู่ที่ประมาณ 6 เหรียญดอลล่าร์สิงคโปร์ตีเป็นเงินไทยก็ ราวๆมื้อละ 150 บ.ได้ รสชาดอาหารสำหรับเราก็ไม่แย่แต่ก็สู้ที่บ้านเราไม่ได้ 55 เรารักอาหารไทย…

จบปิ๊ง! สำหรับทริปนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ ^^