ปกติสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งหลาย ไม่ว่าจะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ที่จะต้องเดินทางไปต่างประเทศโดยเครื่องบิน จะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า มีสิ่งของบางอย่างที่สายการบินห้ามนำขึ้นไปบนเครื่องบินหลักๆก็จะมี….

1. ของเหลวทุกชนิด ทั้ง น้ำ ครีม เจล น้ำหอม สบู่เหลว สเปรย์น้ำแร่ ทุกอย่างเลยค่ะที่มีขนาดเกิน 100 ml. มีคำถามว่า ถ้าเป็นกระปุกขนาด 150 ml. มีเนื้อครีมนิดเดียวเหลือแค่ก้นๆแล้วนำขึ้นไปได้ไหมคะ? ตอบว่า ไม่ได้คร้า เค้าดูจากขนาดบรรจุเป็นสำคัญนะคะ ถ้ามีเกินก็ต้องโหลดใส่เป๋าเดินทางใต้ท้องเครื่องไป ยกเว้น ยาจำเป็นต้องพกติดตัวบางประเภทเท่านั้น

2. อาวุธและของมีคม อย่าง ปืน มีดพับ มีดพก สนับมือ ดาบ ทวน ไม้บรรทัดเหล็ก คัตเตอร์ กรรไกรตัดเล็บ เข็มเย็บผ้า สิ่งเทียมอาวุธด้วยนะคะ ปืนไฟแช็ก ระเบิดไฟแช็ก ปืนเด็กเล่น

3. วัตถุไวไฟและสารอันตรายต่างๆ น้ำมันไฟแช็ก เชื้อเพลิงแข็ง สีน้ำมัน ไม้ขีดไฟ สารอันตราย

เช่น สารกำจัดแมลง สารหนู แบตเตอรีที่บรรจุสารกัดกร่อน น้ำกรด ปรอท

4. อาหารที่มีกลิ่นแรง อาหารทะเล เนื้อสัตว์สด/แช่แข็ง ทุเรียน ปลาร้า ต้องซีลให้แน่นหนา

5. สัตว์มีพิษต่างๆ

6. Power Bank ห้ามนำพาวเวอร์แบงค์ที่มีความจุไฟฟ้าเกินกว่า 32,000 mAh ขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด

.

แต่ Hi-Light อยู่มันตรงนี้ค่ะ …

 Note book ipad กล้องถ่ายรูป เลนส์กล้องถ่ายรูป เกมส์ อิกหน่อยเราคงต้องโหลดใต้เครื่องกันหมดแล้วนะคะ เพราะนี่คือกฏหมายเพิ่มเติ่มสิ่งของต้องห้าม ที่ห้ามนำขึ้นไปบนเครื่องบิน ที่อัพเดทใหม่ ประกาศใหม่ เริ่มใช้แล้วในประเทศแถบตะวันออกกลาง ประเทศกลุ่ม UAE ซึ่งกระทบไทยอย่างแน่นอน ห้ามอะไรบ้าง ?

ขอบคุณรูปภาพจาก spin9.me

1. ห้ามนำ “อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน” ขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด ย้ำๆนะคะ อย่างเช่น

  • เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
  • แท็บเล็ต, ไอแพด
  • เครื่องอ่าน eBook, Kindle
  • เครื่องเล่นเกมทุกชนิด
  • เครื่องเล่น CD, DVD
  • กล้องถ่ายรูป, เลนส์ รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนค่ะ

 

กฎหมายใหม่ของสหรัฐอเมริกา ประกาศห้ามนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน ติดตัวขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด (ต้องโหลดไปกับสัมภาระใต้เครื่องเท่านั้น) โดยมีผลกับเที่ยวบินตรงเข้าสู่สหรัฐฯ จาก 8 ประเทศตะวันออกกลาง โดยกระทบสายการบินหลักๆ อย่าง Emirates, Etihad, Qatar และ Turkish ค่ะ
กระทรวงความมั่นคงฯ ของสหรัฐฯ และ TSA 21 มีนาคม 60 เริ่มบังคับใช้กฎการเดินทางใหม่ โดยระบุ 8 ประเทศตะวันออกกลาง มีจอร์แดน, อียิปต์, ตุรกี, คูเวต, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กาตาร์, โมร็อกโก และ ซาอุดิอาระเบีย ที่มีเที่ยวบินตรงสู่สหรัฐอเมริกา ที่จะกระทบคือกระทบเที่ยวบินใน 10 สนามบิน นั่นแปลว่านักท่องเที่ยวคนไหนเดินทางไปสนามบินเหล่านี้ต้องปฏิบัติด้วยเช่นกัน…

 

ท่าอากาศยานที่ต้องใช้กฏนี้

  • Queen Alia International Airport (AMM)
  • Cairo International Airport (CAI)
  • Ataturk International Airport (IST)
  • King Abdul-Aziz International Airport (JED)
  • King Khalid International Airport (RUH)
  • Kuwait International Airport (KWI)
  • Mohammed V Airport (CMN)
  • Hamad International Airport (DOH)
  • Dubai International Airport (DXB)
  • Abu Dhabi International Airport (AUH)

9 สายการบิน ที่ต้องใช้กฏนี้…

  • Royal Jordanian
  • Egypt Air
  • Turkish Airlines
  • Saudi Arabian Airlines
  • Kuwait Airways
  • Royal Air Maroc
  • Qatar Airways
  • Emirates
  • Etihad Airways

แปลว่า ไม่ว่าคุณจะพาเที่ยวไปที่ใด ที่ต้องมีการเปลี่ยนเครื่องหรือต่อเครื่อง โดยใช้สนามบินหรือสายการบินเหล่านี้ และถ้าจุดหมายปลายทางมุ่งไปที่สหรัฐอเมริกา ต้องถูกบังคับใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ สหรัฐให้สายการบินเหล่านี้ทยอยปรับให้ดำเนินการให้ได้ภายใน 96 ชั่วโมง หรือภายในวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2017ค่ะ ไม่มีข้อยกเว้นใดๆอย่างไม่มีกำหนด
กระทรวงความมั่นคงฯ ของสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่า มีผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ตั้งเป้าการก่อการร้ายไปยังอุตสาหกรรมการบิน โดยจะใช้วิธีที่เปลี่ยนไปจากเดิม มีการนำสารระเบิดแฝงในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่

อังกฤษ ก็เอากะเค้าด้วย ประกาศแล้ว! (UPDATE)

 

เมื่อเสียงประกาศจากสหรัฐฯ สิ้นลงไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง อังกฤษประกาศในลักษณะเดียวกันทันที โดยมีสายการบินที่ถูกทางการ UK บังคับใช้มีถึง 14 สายการบิน

  • British Airways
  • EasyJet
  • Jet2.com
  • Monarch
  • Thomas Cook
  • Thomson
  • Turkish Airlines
  • Pegasus Airways
  • Atlas-Global Airlines
  • Middle East Airlines
  • Egyptair
  • Royal Jordanian
  • Tunis Air
  • Saudia

ข้อแตกต่างของประกาศระหว่างอังกฤษกับสหรัฐอเมริกา

สหราชอาณาจักรกำหนดขนาดของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องห้ามอย่างชัดเจน “ห้ามอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดที่มีขนาดใหญ่กว่า 16 x 9.3 x 1.5 เซนติเมตร” นำขึ้นติดตัวไปบนเครื่องบิน ต้องทำการโหลดไปกับสัมภาระใต้ท้องเครื่องเท่านั้น
กระทบกับนักท่องเที่ยวอย่างเรายังไง?

คนที่วางแผนจะไปเยือนสหรัฐและอังกฤษและตะวันออกกลางหรือเดินทางกับสายการบิน Emirates, Etihad, Qatar และ Turkish ต้องโหลดเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของท่านไปกับสัมภาระใต้ท้องเครื่องนะคะ ที่ติดตัวขึ้นเครื่องไปได้มีแค่สมาร์ทโฟนเท่านั้นค่ะ ตรวจเช็คอุปกรณ์สัมภาระของคุณให้ดีดีก่อนโหลดกระเป๋าใส่แทปเล็ทโน๊ตบุ๊คโหลดไป แต่แหม่ะ! พอโหลดก็กลัว โอ้วยยย ใครจะไปอยากโหลด โน๊ตบุ๊ค ไอแพต ลงเครื่อง ข่าวออกว่ากระเป๋าโดนงัดกันไม่เว้นวัน ไม่โดนขโมยก็ของพังไปค่ะ แล้วอิตอนพักเปลี่ยนเครื่องนี่ล่ะ จะทำงานยังง๊ายยย โด่วว สู้ๆนะทุกท่าน ท่องไว้เพื่อความปลอดภัยนาจา….